สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ประกาศรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 384 คน ห้ามเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นบุคคลซึ่งสนับสนุน “จุดยืนที่ไม่เป็นมิตรและต่อต้านรัสเซีย” และการแสดงความเห็น รวมถึงการกล่าวหา “โดยไม่มีหลักฐานรองรับ” เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยผู้ที่อยู่ในรายชื่อ รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คน คือนายทาโร อาโสะ และนายโยชิฮิเดะ ซึงะ


ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ทวีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลโตเกียวใช้มาตรการแบบเดียวกับตะวันตก คว่ำบาตรต่อรัฐบาลมอสโกเป็นระยะ ล่าสุดคือการที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ “จี 7” เห็นชอบเชิงหลักการร่วมกัน ในการกำหนด “กลไกควบคุม” เพื่อกดราคาน้ำมันของรัสเซีย ให้เหลือเพียงครึ่งเดียวของราคาปัจจุบัน


แน่นอนว่า รัฐบาลมอสโกแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน และเตือนอย่างเจาะจงไปที่ญี่ปุ่นว่า “ท้ายที่สุดแล้วจะไม่ได้ทั้งน้ำมันและก๊าซ” จากรัสเซีย ตลอดจนไม่มีส่วนร่วมอีกต่อไปกับโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) “ซาคาลิน-2” หนึ่งในโครงการส่งแอลเอ็นจีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีการลงนามในข้อตกลงระยะยาว ว่า 60% ของแอลเอ็นจีที่ไหลผ่านเส้นทางนี้จะตรงไปที่ญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จัดตั้งบริษัทใหม่ของรัสเซียขึ้นมาดูแลโครงการนี้โดยเฉพาะแล้ว เพิ่มแรงกดดันอย่างหนักให้กับมิตซุยและมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ฝ่ายญี่ปุ่น.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES