เรียกได้ว่าเป็นประเด็นดุเดือดมากสำหรับกรณีดราม่ามูลนิธิฯ กับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2565 หลังมีสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงกลุ่มชุมทางทุ่งพร้อมข้อความว่า “ฝากถึงรถมูลนิธิสยามรวมใจนะคะ เวลาขอทาง ให้เวลารถคันหน้าดูรถทางซ้ายมือบ้างนะคะ ไม่ใช่คิดแต่จะจ่อตูดอย่างเดียว คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นเค้าบ้างไม่ใช่เอาแต่ความสะดวกของตัวเอง ถึงน้องจะรีบแค่ไหนด่วนแค่ไหน คิดถึงความปลอดภัยคนอื่นด้วยนะคะ” ภายหลังทำให้มีเหล่าบรรดาสมาชิกในกลุ่มแห่เข้าไปคอมเมนต์ติทางมูลนิธิฯ กันมากมาย ต่างเข้าใจว่าทางคนขับอาจไร้มารยาทในการใช้รถใช้ถนน บางคนก็เรียกร้องว่าต้องให้มีบทลงโทษนะเพราะเจอบ่อย ขณะที่อีกฝ่ายก็เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ และได้ตำหนิผู้ที่โพสต์อีกด้วย

สาวโวย! ‘รถมูลนิธิฯ’ขับไร้มารยาท โซเชียลผงะ เมื่อเห็นคลิปอีกด้าน

ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋ง และคนโพสต์คลิป เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนขับรถออกจากบ้านมาบนถนนทุ่งสง-ตรัง ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทุ่งสง สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปสี่แยกเกษตร ซึ่งตนเข้าเลนกลาง เพื่อขับผ่านสี่แยกตรงไปโรงพยาบาล ซึ่งช่องจราจรบังคับให้ตนต้องขับรถเข้าเลนขวา โดยช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันเป็นทางยาว เนื่องจากเป็นวันที่มีตลาดนัด ระหว่างนั้นมีเสียงของรถกู้ภัยเปิดไซเรนขับตามหลังมา ตอนแรกตนพยายามจะเบี่ยงเข้าเลนซ้ายหลบให้รถกู้ภัยแล้ว แต่ช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคัน จึงไม่สามารถเบี่ยงซ้ายได้ ประกอบกับรถกู้ภัยขับลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับหยุด จึงไม่กล้าที่จะขับรถเบี่ยงออกซ้าย เพราะรถของตนคันเล็ก ทัศนวิสัยไม่ดี มองกระจกหลังไม่เห็น เนื่องจากมีรถกู้ภัยจ่อท้ายอยู่

“ยอมรับว่าที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายอย่างกระชั้นชิด ทำให้ความสามารถ สติในการขับรถของตนลดน้อยลง ประกอบกับความกลัวว่าจะถูกรถกู้ภัยชนท้าย เนื่องจากรถกู้ภัยขับรถในลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับกับหยุด จึงไม่กล้าขับเบี่ยงออกซ้าย ส่วนคลิปหน้ารถที่รถกู้ภัยนำมาโพสต์ เป็นเพียงแค่ช่วงท้าย ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายนั้น บริเวณช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันตลอดทาง ตนจึงไม่สามารถขับรถเบี่ยงซ้ายหลบให้กู้ภัยได้ จึงวอนสังคมให้ฟังความทั้งสองข้าง หากไม่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ควรจะวิพากษ์วิจารณ์ให้ผู้อื่นเสียหาย” ผู้ช่วยพยาบาล กล่าว

นางสาวบี กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนได้ทักไปยังช่องแชตมูลนิธิฯ เพื่อจะชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีการตอบรับ จึงตัดสินใจนำเรื่องราวมาโพสต์จนเกิดกระแสดราม่าดังกล่าว นอกจากนี้มีกู้ภัยบางคน และชาวเน็ต ส่งข้อความมาช่องแชตส่วนตัว ในลักษณะข่มขู่สารพัด แต่ตนไม่สนใจอะไร เพราะว่าเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อยากถามทุกคนว่า หากเจอกรณีที่มีรถขับจ่อท้ายในลักษณะเร่งเครื่องสลับหยุด โยกซ้ายขวา ที่สำคัญมีรถจอดซ้อนคันช่องเลนซ้าย จะทำอย่างไร ยอมรับว่าปรึกษาทนายแล้ว เรื่องที่จะดำเนินการกับคนที่ทักช่องแชตลักษณะข่มขู่ว่าจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไรได้บ้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ขอให้ฟังความทั้งสองข้างว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร หากคนใดคิดว่าเหตุการณ์ตามคลิปตนผิด ตนต้องก็ขอโทษด้วย

ขณะที่ ผอ.รพ. ของ น.ส.บี กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งสอบถามทางหัวหน้าตึกที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวปฏิบัติงานแล้ว ซึ่งตนจะเรียกเจ้าหน้าที่สอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่ได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย.