สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ว่าบริษัทก๊าซพรอม ผู้ผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย ออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ หยุดการส่งก๊าซให้แก่ลัตเวีย เนื่องจากละเมิดเงื่อนไขที่ระบุชัดเจนอยู่ในข้อตกลงซื้อขายพลังงาน


แม้แถลงการณ์ของก๊าซพรอมไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน ว่าเงื่อนไขใดที่รัฐบาลลัตเวียไม่ปฏิบัติตาม แต่ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว บริษัทลัตวีจาส กาเซ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของลัตเวีย ยืนกรานการชำระค่าธรรมเนียมพลังงานให้แก่ก๊าซพรอมเป็นเงินยูโร ไม่ใช่เงินรูเบิล


อนึ่ง ลัตเวียเป็นประเทศที่ 6 ในยุโรป ซึ่งรัสเซียประกาศยุติการส่งก๊าซให้ ต่อจากโปแลนด์ บัลแกเรีย ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก โดยประเทศเหล่านี้ยืนยันจุดยืน การจ่ายค่าซื้อก๊าซให้กับรัสเซียเป็นเงินยูโร


นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุเมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา สหรัฐยังคงวิพากษ์วิจารณ์การที่ยุโรปเดินหน้าซื้อพลังงานหลายประเภทจากรัสเซีย โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ขณะที่นายโฮเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า การจะให้ยุโรปเลิกพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย “ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ภายในชั่วข้ามคืน”


ส่วนที่ประชุม 27 ประเทศสมาชิกอียูมีมติ ลดปริมาณการใช้ก๊าซภายในประเทศของตัวเองให้ได้ 15% ระหว่างเดือน ส.ค.ปีนี้ จนถึงเดือน มี.ค.ปีหน้า โดยให้รัฐบาลของแต่ละประเทศอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยการใช้ก๊าซ ในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่างปี 2559-2564 หลังก๊าซพรอมลดการส่งก๊าซผ่านท่อ “นอร์ดสตรีม 1” เหลือเพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งคิดเป็นเพียง 20% ของปริมาณปกติ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ก๊าซพรอมยังคงให้เหตุผลเกี่ยวกับ “ความล่าช้าโดยเจตนา” ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ส่งผลให้กระบวนการซ่อมบำรุง และการส่งคืนท่อคอมเพรสเซอร์โดยบริษัทซีเมนส์ในแคนาดา “ไม่เป็นไปตามกำหนด” ด้านกระทรวงพลังงานของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า “ไม่สมเหตุสมผล”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES