รายงานข่าวจากพลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 1 ส.ค. นี้ ราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี จะปรับขึ้นอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่งผลให้ก๊าซหุงต้มขนาดถัง 15 กก. ปรับขึ้น 15 บาท ราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 393 บาทต่อถัง 15 กก. จากปัจจุบันอยู่ที่ 378 บาท ยังไม่นับรวมค่าขนส่งบริการ ซึ่งเป็นไปตามมมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ให้ทยอยปรับราคาก๊าซแอลพีจีขึ้น 3 เดือนตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย. โดยเดือน ก.ย. จะขยับขึ้นเป็น 408 บาทต่อถัง 15 กก. เพื่อลดผลกระทบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 24 ก.ค. 65 ยังติดลบ 115,045 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 75,573 ล้านบาท และบัญชีก๊าซแอลพีจีติดลบ 39,472 ล้านบาท
 
ทั้งนี้รัฐยังช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 65 และหลังจากวันที่ 30 ก.ย. นี้ จะมาพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง 

นอกจากนี้วันที่ 1 ส.ค. นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ กกพ. จะแถลงผลการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65) เบื้องต้นบอร์ด กกพ.มีมติขึ้นค่าเอฟทีใหม่ อยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย แม้เป็นอัตราการขึ้นต่ำที่สุด จาก 3 แนวทางที่ได้เปิดรับฟังความเห็นกับประชาชนไปก่อนหน้านี้ ทำให้ราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายงวดใหม่อยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย จากเดิมประมาณ 4 บาท แต่ถือเป็นอัตราค่าไฟฟ้าสูงสุดตั้งแต่มีการจับเก็บมา และการปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้ ยังไม่มีการจ่ายหนี้ค่าเชื้อเพลิงคืนให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ต้องแบกแทนประชาชนตัวเลขสิ้นสุด ส.ค.นี้ คาดว่า อยู่ที่ 109,672 ล้านบาท เท่ากับว่า ปีหน้า กกพ.จะทยอยจ่ายคืนหนี้ให้กับ กฟผ. ในรูปแบบทยอยคำนวณในค่าเอฟทีในทุกๆ งวด