สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ว่า ปริมาณน้ำฝนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมานานกว่า 2 ทศวรรษ ส่งผลให้ระดับน้ำของแม่น้ำโคโลราโดอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจากมนุษย์ ทำให้วัฏจักรภัยแล้งเลวร้ายลง แม้จะมีการเตือนมาหลายปี แต่หลายรัฐที่พึ่งพาแม่น้ำไม่สามารถลดความต้องการใช้น้ำได้มากพอ จนรัฐบาลกลางสหรัฐต้องออกประกาศลดการใช้น้ำในหลายพื้นที่

“เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะร้ายแรงของระบบแม่น้ำโคโลราโด และอนาคตของความไม่แน่นอนและความขัดแย้ง การใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำจะต้องลดลง” นางทันยา ทรูจิลโล ผู้ช่วยเลขานุการด้านน้ำและวิทยาศาสตร์ของกระทรวงมหาดไทยสหรัฐ กล่าว

การจัดสรรน้ำจากแม่น้ำของรัฐแอริโซนา จะลดลง 21% ในปี 2566 ขณะที่ รัฐเนวาดา จะได้รับน้ำน้อยลง 8% และการแบ่งสรรน้ำของเม็กซิโก จะลดลง 7% ส่วนรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำจากแม่น้ำรายใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดในบรรดารัฐทางตะวันตก จะไม่ได้รับผลกระทบในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณน้ำฝนที่ลดลงและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลโดยไม่ได้รับการตรวจสอบของมนุษยชาติ หมายความว่าหิมะจะตกน้อยลง และหิมะที่มีอยู่ตามเทือกเขาที่เชื่อมกับแม่น้ำโคโลราโดจะละลายเร็วขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาคือ น้ำในแม่น้ำไม่เพียงพอ สำหรับประชาชนหลายสิบล้านคน และพื้นที่การเกษตรอีกนับไม่ถ้วน

ขณะที่ นายทอมมี โบโดร รมช.มหาดไทยสหรัฐ กล่าวว่า ทางกระทรวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่รับผิดชอบเรื่องทรัพยากรน้ำ กำลังใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่ออนุรักษ์น้ำ และรับรองว่าผู้ทำชลประทาน ชนเผ่าต่าง ๆ และชุมชนที่อยู่ติดกัน จะได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอ.

เครดิตภาพ : REUTERS