ในงานประชุมประจำปี ‘Forbes 400 Summit on Philanthropy’ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา มหาเศรษฐีระดับโลกและผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ได้แสดงความเห็นที่น่าสนใจไว้ในระหว่างการสนทนาในหัวข้อใหญ่ของงานว่า การแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างชัดเจนอาจสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ สหรัฐอาจต้องพบกับสภาวะที่ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากไปอย่างเด็ดขาด รวมถึงอาจเป็นชนวนที่ทำให้เกิดสงครามการเมืองได้

เกตส์ ระบุว่า เขาไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเมืองและจะไม่สนับสนุนด้านการเงินในหัวข้อนี้ เพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างไร แต่เดิมนั้น เกตส์ และอดีตภรรยามักให้ความสำคัญและทำงานการกุศลด้านการแก้ไขปัญหาความยากจนและปัญหาเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บมากกว่า

อดีตเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ กล่าวว่า การแตกแยกหรือการแบ่งขั้วทางการเมืองนั้นเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับปัญหาอีกประการหนึ่ง ซึ่งก็คือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เกตส์ ชี้ว่า การแบ่งพรรคแบ่งพวกและการขาดความไว้วางใจกันคือปัญหาใหญ่ในขณะนี้

เกตส์ เคยเขียนในโพสต์บนเว็บบล็อกของเขาครั้งหนึ่งว่าโดยปกติแล้ว เขามีมุมมองที่ค่อนไปในแง่บวกสำหรับโลกอนาคต แต่มีสิ่งหนึ่งทำให้เขาบั่นทอนความมองโลกแง่บวกของเขาก็คือระดับของความแตกแยกที่เพิ่มขึ้นเพราะการแบ่งข้างกัน โดยเฉพาะการแบ่งขั้วทางการเมือง

หลายปีที่ผ่านมา เกตส์ และ เมลินดา เฟรนช์ เกตส์ ซึ่งกลายเป็นอดีตภรรยาของเขาไปแล้ว ได้บริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐให้งานวิจัยและพัฒนาวัคซีน รวมถึงจัดส่งให้พื้นที่ที่จำเป็นโดยผ่านทางมูลนิธิของพวกเขา ซึ่งมีส่วนทำให้เขาโดนกล่าวหาในทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ เช่น กล่าวหาว่า เขาใส่ไมโครชิพลงในวัคซีนเพื่อใช้เป็นสื่อติดตามตัวบุคคล เขายังเคยโดนคนตะโกนด่าเรื่องนี้กลางถนนแบบซึ่งหน้ามาแล้ว ในช่วงต้นเดือนนี้

ในระหว่างการเสวนาบนเวทีหลักของงานประชุมของ Forbes ในปีนี้ เกตส์ ยังกล่าวว่า เขาและอดีตภรรยา ต่างหวังว่ามูลนิธิการกุศลของพวกเขาจะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้เป็นเวลาอีกอย่างน้อย 25 ปี โดยเน้นการแก้ไขปัญหาด้านโรคภัยไข้เจ็บเป็นหลัก

แหล่งข่าว : businessinsider.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES