นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.64 เป็นต้นไป รฟท. จะนำผลผลิต พืชผัก และผลไม้ปลอดสารพิษ จากโครงการต้นแบบสถานี/ซุ้มสวยงาม ซึ่งปลูกโดยพนักงาน และลูกจ้าง รฟท. ในสถานีต่างๆ ทั่วประเทศ นำมาใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหารกล่อง เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชน ชุมชน และครอบครัวพนักงาน ลูกจ้าง รฟท. ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย รฟท. จะดำเนินกิจกรรมดังกล่าวต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษา 12 ส.ค.64 และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระองค์ ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข และความเจริญรุ่งเรืองของพสกนิกร และประเทศชาติตลอดมา

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการสถานี/ซุ้มสวยงาม พืชผักกินได้นั้น รฟท. เกิดขึ้นตามแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ส่งเสริมให้พนักงานประจำสถานีรถไฟทั่วประเทศ ใช้เวลาว่างจากการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการนำพื้นที่บริเวณสถานีและซุ้มเครื่องกั้นถนน มาเพาะปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ รวมถึงสมุนไพรที่ใช้แทนยารักษาโรค เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น มาใช้บริโภคภายในครัวเรือน และแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน สถานศึกษา และชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบสถานีรถไฟ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและก่อให้ความสมัครสมานสามัคคีระหว่างการรถไฟฯ กับชุมชน

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมโครงการต้นแบบสถานี/ซุ้มสวยงาม พืชผักกินได้ ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบันมีสถานีและซุ้มเครื่องกั้นถนนฯ ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 31 สถานี และซุ้มกั้นถนนอีก 28 ซุ้ม โดยในอนาคต รฟท. ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการจัดกิจกรรมโครงการต้นแบบฯ ไปตามตามสถานีต่าง ๆ และซุ้มกั้นถนนฯ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน รฟท. ยังได้จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรวบรวมเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สเปรย์แอลกอฮอล์ เวชภัณฑ์ยา และสิ่งของที่จำเป็นจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อนำไปส่งมอบให้ประชาชน ชุมชน และพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้ประชาชนคนไทยทุกคนให้ก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน.