สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า อหิวาตกโรคเคยคร่าชีวิตชาวเฮติราว 10,000 คน ในการระบาดเมื่อปี 2553 ซึ่งมีการกล่าวโทษกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาด ขณะที่องค์การอนามัยแพนอเมริกัน (พาโฮ) ในปี 2563 กล่าวว่า เฮติไม่มีการยืนยันพบผู้ป่วยอหิวาตกโรคมานาน 1 ปีแล้ว

“ตามข้อมูลที่พวกเรามี ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 7-8 คน” นางลอเร เอเดรียน ผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุขเฮติ กล่าวเพิ่มเติมในระหว่างการแถลงข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังประสบความลำบาก ในการรวบรวมข้อมูลจากโรงพยาบาลต่าง ๆ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขเฮติยืนยันพบผู้ป่วยรายหนึ่งในกรุงปอร์โตแปรงซ์ และมีผู้ป่วยสงสัยอีกหลายรายในเมืองซิเตโซเลย์ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของการแข่งอิทธิพลระหว่างแก๊งอาชญากรรม เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

นับตั้งแต่เดือนที่แล้ว แก๊งอาชญากรรมได้ปิดกั้นท่าเรือเชื้อเพลิงหลักของประเทศ เพื่อประท้วงการประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงของเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิด หรือลดการทำงาน เพราะขาดเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปั่นไฟ และในตอนนี้ การขนส่งสาธารณะพื้นฐาน กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับประชาชนส่วนใหญ่แล้ว

ขณะที่บริษัท “แคริบเบียน บอตต์ลิ่ง คอมปานี” ผู้จัดส่งน้ำดื่มบรรจุขวดรายหลัก กล่าวว่า ทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำขวดได้อีกต่อไป เนื่องจากน้ำมันดีเซล ซึ่งมีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานของบริษัท ไม่มีเหลือแล้ว

ทั้งนี้ อหิวาตกโรคมักจะแพร่กระจายผ่านน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ป่วย นั่นหมายความว่า น้ำดื่มสะอาดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES