หลังทางเขื่อนป่าสักฯ ได้ปล่อยระบายน้ำออกมาในปริมาณที่เยอะในวันนี้ประมาณ 3,100-3,500 ลบ.ม. /วินาที ที่ประตูน้ำบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้มวลน้ำรวมกับน้ำหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนหนทางที่อยู่ติดใกล้เคียงริมแม่น้ำตลอดทั้งแนว นั้น

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนลงพื้นที่สำรวจบริเวณ สี่แยกพระราม 5 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ พบการจราจรชะลอตัวติดขัดลงเล็กน้อยช่วงก่อนเลี้ยวกำลังขึ้นสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าทิศทางขาออก เนื่องจากมีปริมาณมวลน้ำเอ่อล้นขึ้นมายังพื้นถนนประมาณ 5-40 ซม. ซึ่งจุดที่ลึก 40 ซม. นั้น เป็นพื้นที่ต่ำขยับจากสี่แยกเข้ามาทางกลับรถยูเทิร์นใต้สะพาน โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่องขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางท่อสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว ในการเร่งสูบดูดน้ำระบายจากพื้นที่ด้านใน ออกกลับคืนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้สร้างทำแนวคันกั้นกระสอบทรายบล็อกมวลน้ำเอาไว้แล้ว ปริมาณน้ำจะค่อยๆ ลดลงในช่วงเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

ขณะที่ปริมาณน้ำภายในซอยพิบูลสงคราม 1 หรือ ท่าเรือแตงโมนิดา มวลน้ำได้ไหลเข้าเอ่อเต็มพื้นที่ด้วยเช่นกัน ระดับน้ำบนพื้นถนนสูง ประมาณ 15-25 ซม. และภายในซอยต่างๆ ที่อยู่ใกล้ริมน้ำระดับน้ำประมาณ 20-50 ซม. และในพื้นที่ต่ำบางจุดสูง 20 ซม.-1.3 ม. และระดับน้ำจะลดลงในช่วงเวลา 21.30-22.30 น.

บรรยากาศที่บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ท่าน้ำนนท์ พบเจ้าหน้าที่เทศบาลนนทบุรีติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 8 สูบ เส้นผ่าศูนย์กลางท่อมีขนาด 6 นิ้ว 8 นิ้ว และ 12 นิ้ว จำนวน 5 ตัว ตลอดแนวริมเขื่อนท่าน้ำนนท์ เพื่อเร่งสูบน้ำที่เอ่อล้นเข้ามาภายในพื้นที่ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยากลับคืน โดยในช่วงเวลา 22.47 น. สามารถวัดระดับน้ำจากสเกลมาตราวัดน้ำแตะอยู่ในแถบของพื้นที่สีเหลือง (เฝ้าระวัง) ได้ที่ 2.50 ม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เทศบาล ได้สร้างแนวกระสอบทรายคันกั้นน้ำสูงประมาณ 85-95 ซม. หรือสูง 9 ชั้นกระสอบทราย วางทำแนวคันกั้นตลอดแนวริมเขื่อน เพื่อวางบล็อกปริมาณมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ให้เอ่อล้นเข้ามาภายในพื้นที่ของถนนรอบวงเวียนหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์.