เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี ขยายวงกว้างหลายพื้นที่ โดย น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี เขต 3 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น้ำท่วมใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระดับยังคงท่วมสูงเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจมมิดหลังคาพื้นที่เศรษฐกิจ ที่ดินทำกินของเกษตรกรถูกน้ำท่วมเสียหาย 100% ถนนที่ใช้สัญจรเข้าออกภายใน อ.วารินชำราบ จากที่มี 4 เส้นทาง เหลือเพียง 1 เส้นทาง หากมีมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์และฝายจากศรีสะเกษ เข้ามาเพิ่ม จะทำให้ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์

น.ส.กิตติ์ธัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากระดับน้ำจากลำน้ำชีและลำน้ำมูล ไหลมารวมที่ อ.วารินชำราบ โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงมาก เกือบเท่าปี 2521โดยระดับแม่น้ำมูล ณ วันที่ 11 ต.ค. 2565 อยู่ที่ 11.50 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 4.50เมตร ตำบลที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมก็ท่วมเต็มพื้นที่ พี่น้องประชาชนกว่า 1,500 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว เจ้าหน้าที่กู้ภัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้กระจายกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอและเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะกระแสน้ำมาแรงมาก มีความอันตรายและมีความเสี่ยงเช่นกัน

“ที่น่าสงสารที่สุดคือพี่น้องประชาชนที่กางเต็นท์นอน อยู่ๆ น้ำมา รองเท้าลอยหายไปกับน้ำ ตอนนี้ลมหนาวพัดเข้ามาแล้ว เข้าใกล้สู่ฤดูหนาว ประชาชนต้องทนทุกข์กับน้ำท่วมและความหนาวในเวลาเดียวกัน อยากให้คนที่มีหน้าที่ตรงนี้มาลองเป็นพี่น้องประชาชนดูว่าพวกเขาลำบากแค่ไหนวันนี้ ถ้าเราได้จัดทำตามแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท คงไม่ต้องมีพี่น้องประชาชนทนทุกข์ลำบาก ไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆ แล้ว” น.ส.กิตติ์ธัญญา กล่าว

นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานพื้นที่ได้รับแจ้งมาว่าน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้ แต่เท่าที่ติดตามปริมาณน้ำในพื้นที่รับน้ำใกล้เคียง ทั้งลำน้ำชีและเขื่อนอุบลรัตน์ ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาเติมเรื่อยๆ จึงยังต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในอุบลราชธานีอย่างใกล้ชิด ซึ่งปีนี้น้ำท่วมอุบลฯ วิกฤติหนักได้รับผลกระทบ 19 อำเภอ เดือดร้อน 42,440 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าสถานการณ์น้ำท่วม ต.ไร่ใต้ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี วิกฤตหนัก บ้านเรือน โรงเรียน จมบาดาล บางจุดลึกถึง 5 เมตร ชาวบ้านโวยเป็นหมู่บ้านที่ถูกลืมการเข้าไปช่วยเหลือเข้าไปยังไม่ถึง โดยเฉพาะหมู่ที่ 1 ต.ไร่ใต้ อ.พิบูลมังสาหาร ลำน้ำจากลำโดมใหญ่เอ่อไหลเข้าท่วมชุมชนชาวบ้านต้องขนของขึ้นที่สูง บางส่วนก็อพยพออกมาเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรเสียหายหนัก ข้าวนาปีที่กำลังจะเก็บเกี่ยวก็ถูกน้ำท่วมหมด ส่วนโรงเรียนบ้านผักหย่า หมู่ที่ 1 บ้านแก่งโพธิ์ ต.ไร่ใต้ น้ำท่วมประมาณ 3-4 เมตร เกือบถึงชั้น 2 ของตัวอาคารโรงเรียน ต้องปิดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด แนวโน้มน้ำอาจจะอยู่ท่วมเป็นเดือน เนื่องจากอุปกรณ์การเรียน โต๊ะนักเรียนเสียหายถูกน้ำท่วมเนื่องจากน้ำมาเร็วมาก เก็บของไม่ทัน หลังจากน้ำลดคงจะต้องปรับปรุงซ่อมแซมจำนวนมาก

นายเพ็ง ขันคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านแก่งโพธิ์ ต.ไร่ใต้ กล่าวว่า บริเวณหมู่บ้านนี้น้ำท่วมก่อนเพื่อน ช่วงแรกชาวบ้านก็เก็บสิ่งของจากชั้นล่างขึ้นที่สูงน้ำก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งชาวบ้านมองว่า เป็นหมู่บ้านที่ถูกลืม สิ่งของถุงยังชีพที่บริจาคมาให้ก็ไม่เพียงพอและไม่ตรงจุด