สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า สมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) มีมติเสียงข้างมาก 143 เสียง ในการประชุมเมื่อวันพุธ ประณาม “ความพยายามที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ” ของรัสเซีย ในการผนวกรวมภูมิภาค 4 แห่งของยูเครน ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคียร์ซอน และซาโปริชเชีย ผ่านการลงประชามติของประชาชนในพื้นที่ เมื่อเดือนที่แล้ว


ขณะที่ 4 ประเทศคัดค้าน นำโดยรัสเซีย ร่วมด้วยเกาหลีเหนือ เบลารุส นิการากัว และซีเรีย ด้าน 35 ประเทศงดออกเสียง รวมถึงจีน อินเดีย ปากีสถาน ลาว ไทย เวียดนาม และแอฟริกาใต้ ส่วนอีก 10 ประเทศที่เหลือไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ที่เป็นการผลักดันโดยสหรัฐ หลังมติเดียวกันนี้ ไม่ผ่านการรับรองของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เนื่องจากรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวร ใช้สิทธิวีโต้


อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 ซึ่งรัสเซียผนวกรวมคาบสมุทรไครเมียผ่านการลงประชามติของประชาชนในพื้นที่ ยูเอ็นจีเอพยายามผ่านมติประณามรัฐบาลมอสโกเช่นกัน แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากรัสเซียใช้อำนาจวีโต้ รัฐบาลวอชิงตันจึงเสนอเรื่องมาทางสมัชชายูเอ็น ซึ่งมีมติ 100 เสียง ไม่รับรองการลงประชามติผนวกรวมคาบสมุทรไครเมีย คัดค้าน 11 เสียง งดออกเสียง 58 เสียง และที่เหลือไม่เข้าร่วมการหยั่งเสียงครั้งนั้น


ด้านนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวถึงการลงมติครั้งนี้ “ขับเคลื่อนด้วยการเมืองและเป็นการคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง” อีกทั้ง “อาจทำลายความพยายามทางการทูตเพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ครั้งนี้” ส่วนนายเกิ่ง ส่วง อัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า จีนงดออกเสียงเนื่องจาก การหยั่งเสียงครั้งนี้ “ไม่มีประโยชน์” อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ขอบคุณความสนับสนุนจาก 143 ประเทศ.

เครดิตภาพ : REUTERS