สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า รายงาน “การคุ้มครองคนและโลก” ของซีดีพี สำรวจ 998 เมืองจากทั่วโลก และเผยให้เห็นว่า นอกเหนือจากสัดส่วนเมืองราว 80% กำลังเผชิญเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงแล้ว เกือบ 1 ใน 3 ของตัวเลขข้างต้น อันตรายที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศยังคุกคามประชากรในเมืองอย่างน้อย 70% อีกด้วย
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า เกือบ 2 ใน 3 ของเมืองต่าง ๆ คาดว่าอันตรายที่เผชิญจะรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคต ขณะที่สัดส่วนมากกว่าครึ่งคาดว่าภัยธรรมชาติดังกล่าวจะเกิดบ่อยขึ้นภายใน 2568
เนื่องจากผู้สูงอายุ, ผู้ที่อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย, เด็ก และกลุ่มชายขอบของชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ผู้กำหนดนโยบายจึงจำเป็นต้องสะท้อนความต้องการของประชาชน เมื่อมีการวางแผนรับมือกับวิกฤติสภาพอากาศ
Four in five cities across the world are facing significant climate hazards such as heat waves, floods and droughts, data from environmental disclosure non-profit CDP showed https://t.co/P6BGRbLSNW
— Reuters (@Reuters) October 13, 2022
“การให้ผู้คนเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินการด้านสภาพอากาศ ตั้งแต่การวางแผน จนถึงการนำไปใช้ จะช่วยปรับปรุงชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นได้” นางไมอา คุตเนอร์ รักษาการผู้อำนวยการโลกาภิวัตน์ของซีดีพี กล่าว
เมืองต่าง ๆ ในสัดส่วนเกือบ 2 ใน 3 กำลังดำเนินการอย่างน้อย 1 แนวทางของการดำเนินการด้านสภาพอากาศที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเห็นถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองทางสุขภาพและสังคมที่ดีขึ้น, การส่งเสริมทางเศรษฐกิจ และการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเมืองที่จะสามารถใช้แนวทางดังกล่าวได้ อีกทั้งองค์กรอิสระ (เอ็นจีโอ) กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินที่มากขึ้นจากรัฐบาลคือสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความคิดริเริ่ม และกฎระเบียบที่สมบูรณ์ในด้านสิ่งแวดล้อม.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES