จากกรณี เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ได้มีผู้เสียหาย 5 คน เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังจากโดนบ่อนพนัน พื้นที่ถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม อุ้มรีดเงินไป 5 ล้านบาท เนื่องจากตัวแทนของบ่อนกล่าวหาว่า พวกตนโกง เล่นพนันไพ่เสือมังกร ทำให้บ่อนเสียเงินจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

นักพนันร้อง! บ่อนหาว่าเล่นโกง ถุงคลุมหัวจับซ้อมรีด 5 ล้าน แจ้ง ตร.ถูกตัดสายทิ้ง

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่ สน.โคกคราม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำนักเล่นพนัน 3 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากเหตุทำร้ายร่างกายภายในบ่อนพนันย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม

นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้เสียหายระบุว่า มีการนำถุงดำครอบศีรษะแล้วม้วนถุง ตลอดจนมีนายตำรวจระดับสูงของโรงพักนี้ เข้ามาเจรจากับผู้เสียหาย คือการสอบถามเพียงการเล่นพนัน โดยไม่สอบถามถึงข้อมูลการกระทำความผิด หรือรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ยืนยันว่า ข้าราชการไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไร ดำเนินการเลย เว้นเสียแต่มีผลประโยชน์ร่วมกัน วันนี้จึงจะพาผู้เสียหายมาแจ้งความในข้อหา พยายามฆ่า/ร่วมกันปล้นทรัพย์/ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว

นายเอกภพ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่คนไทยทั้งประเทศอยากจะทราบคือ ข้อเท็จจริงว่า จุดนั้นมีบ่อนได้อย่างไร พนักงานสอบสวนจึงต้องสอบให้ชัด สายไหมต้องรอด ไม่ได้มีหน้าที่จับเรื่องบ่อน พวกเราและสื่อมวลชนต่างเป็นผู้ดู แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปราบปรามเรื่องนี้โดยตรง จึงขอฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบังคับการตำรวจนครบาล ภาค 2 (น.2) ว่าหาก สน.โคกคราม เอาไม่อยู่ ต้องพิจารณาด้วย ผ่านมาเดือนกว่าแก้ปัญหาไม่ได้ ผู้เสียหายต้องมาโวยวายกับเพจสายไหมต้องรอด

ด้านผู้เสียหายสาวประเภทสองหญิง ระบุว่า ส่วนตัวมาเล่นที่บ่อนนี้ได้ประมาณ 4 ครั้งแล้ว คิดว่าเขาเห็นว่าเราได้เงินเยอะ แต่ส่วนตัวมองว่าเงินที่ได้มาวันละหลักหมื่นถึงหลักแสน ก็สมส่วนกับที่เล่นไป ที่ต้องเจอคือเขาบังคับให้นั่ง แล้วใช้ถุงดำครอบหัว มัดมือมัดขา บังคับให้บอกรหัสผ่านไปโอนออกจากบัญชี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังระบุว่า เจ้าของบ่อนเป็นคนในพื้นที่ แม้จะให้ผู้ใหญ่โทรศัพท์เข้าไปเคลียร์หลายครั้งเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว แต่ที่ผ่านมา นายตำรวจระดับสูงในโรงพักนี้กลับทำมึน ไม่สนใจ ระบุว่านึกว่าจบไปแล้ว วันนี้จึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดี ยืนยันว่าที่ผ่านมา พูดตามความจริงทุกอย่าง แต่ตำรวจพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้เกี่ยวข้องกับบ่อนและ สน.โคกคราม “บ่อนกับตำรวจใครก็รู้กันว่าอยู่กันอย่างไร แต่เราคือทำยังไงได้ ยอมไปก่อน เพราะผู้ก่อเหตุก็ยอมมาเจรจาคืนเงิน มีการทำสัญญาบนโรงพัก” ผู้เสียหายกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายบรรยากาศภายในบ่อนการพนัน มายืนยันต่อสื่อมวลชนว่า สถานที่ที่ตนนำชี้เมื่อวานนี้ เป็นบ่อนการพนันจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่ตกแต่งขึ้นมา

ขณะที่ผู้เสียหายชาย ระบุว่า เคยเล่นที่บ่อนอื่นย่านนวลจันทร์ ซอย 22 ซอย 27 และซอย 36 รวมถึงพื้นที่อื่นในกรุงเทพมหานคร นับได้กว่า 100 บ่อน เป็นระยะเวลามากว่า 3 ปี แล้วเพิ่งย้ายมาเล่นที่นี่ได้แค่ 3 วัน มีทั้งถั่ว ไฮโล และเสือมังกร ซึ่งไม่เคยเจอที่ไหนเลวร้ายเท่ากับบ่อนนี้ ที่เขาบอกว่าเราโกงเพราะเห็นว่าเราได้เยอะ และอ้างว่าเรารู้จักเด็กเปิดไพ่ ผู้เสียหายชาย ยังระบุอีกว่า เจ้าของบ่อนเป็นคนจีน อักษรย่อ ต. อายุ 50 กว่าปี และมีคนจีนเข้าไปเล่นในบ่อนแห่งนี้เยอะ เป็นบ่อนถาวร ไม่ใช่บ่อนวิ่งอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน ได้นำตัวผู้เสียหายไปสอบปากคำอยู่.