เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายอับดุลรอหีม ขุนรักษา กำนัน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้บันทึกภาพและส่งต่อให้ผู้สื่อข่าว เปิดนาทีแห่งความประทับใจที่ พะยูน ตัวโต น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ว่ายน้ำอวดโฉม ทั้งดำผุดดำว่าย พร้อมและโชว์ลีลาพลิกหงายท้องไปมาจำนวนหลายครั้ง ระยะเวลานานกว่า 15 นาที ก่อนจะดำน้ำหายไป บริเวณหอชมพะยูน (สะพานหลีกภัย) หมู่ 4 บ้านบ้านบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง ซึ่งพะยูนตัวดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดที่กลุ่มนักท่องเที่ยวยืนอยู่บนหอชมประมาณ 18 เมตร เท่านั้น สร้างความตื่นตาตื่นใจ และประทับใจให้กับน้ำท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ต่างนำกล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพความน่ารักของพะยูนตัวดังกล่าวไว้

นายอับดุลรอหีม หรือกำนันหีม กล่าวว่า วันนี้ตนนำพานักท่องเที่ยวชายหญิง 5 คน จากพื้นที่ จ.ตรัง จ.สงขลา และ กรุงเทพฯ หลังจากเดินทางมาเที่ยวบนเกาะลิบง จึงได้นำพามาที่หอชมพะยูน ซึ่งเป็นความบังเอิญเป็นอย่างมาก พะยูนตัวดังกล่าว ได้โผล่ขึ้นมาและมาว่ายอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวชื่นชม โดยจุดดังกล่าวห่างจากฝั่งประมาณ 800 เมตร พะยูนมักจะไม่ค่อยมาเล่นน้ำเท่าใดนัก ส่วนใหญ่หากจะพบเห็นก็จะเป็นแถบเขาบาตูปูเต๊ะ ที่อยู่ถัดออกไปไม่ไกล เนื่องจากเป็นแหล่งหญ้าทะเล ที่เป็นอาหารของพะยูน แต่ครั้งนี้พะยูนได้มาอยู่บริเวณไม่ไกลฝั่ง ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมาเล่นน้ำ ไม่ได้มากินหญ้าทะเล เพราะจุดดังกล่าวหญ้าทะเลมีน้อย ไม่ชุกชุมเหมือนบริเวณเขาบาตูปูเต๊ะ และในระหว่างที่กำลังเดินกลับ นักท่องเที่ยวกลับได้พบเห็นเต่าทะเลด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก

ซึ่ง ‘พะยูน’ เป็นสัตว์ป่าสงวน ใกล้จะสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย สำหรับ ‘เกาะลิบง’ นั้น เป็นแหล่งที่มีพะยูนฝูงสุดท้ายในประเทศไทย และมีพะยูนอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งยังมีแหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด เมื่อเทียบกับพื้นที่หญ้าทะเลในจังหวัดอื่น ๆ ของประเทศไทย รวมทั้งยังเคยเป็นที่อยู่อาศัยของพะยูนน้อย ‘มาเรียม’ ก่อนหน้านี้อีกด้วย.