สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. โดยอ้างข้อมูลจากรายงานของเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ว่า นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว “หารือเป็นการลับหลายครั้ง” ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ กับ นายยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของทำเนียบเครมลิน และ นายนิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย


ขณะที่ทำเนียบขาวปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวว่า “สื่อจะพูดอะไรก็ได้” เช่นเดียวกับทำเนียบเครมลินซึ่งปฏิเสธให้ความเห็นต่อรายงานชิ้้นนี้ ที่ระบุเกี่ยวกับ “ภัยคุกคามนิวเคลียร์” ด้วย


อย่างไรก็ตาม รายงานของเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ได้รับการเผยแพร่ออกมาเพียงวันเดียว หลังเดอะ วอชิงตัน โพสต์ อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลวอชิงตัน ว่ามีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเคียฟ ในเชิงโน้มน้าวให้มีการ “ส่งสัญญาณความพร้อม” ของการเจรจากับรัสเซีย และขอให้ยูเครน “ถอนคำพูด” ว่าจะไม่พบหารือกับรัฐบาลมอสโก ตราบใดที่ปูตินยังคงอยู่ในอำนาจ


แหล่งข่าวเน้นว่า ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐไม่ใช่การผลักดันให้ยูเครนเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างเป็นทางการ แต่เป็นความพยายาม “ที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว” ว่าจะยังคงช่วยให้ยูเครนได้รับความสนับสนุนจากนานาชาติต่อไป เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงมากที่การสู้รบจะยืดเยื้อ “นานอีกหลายปี”


ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันมองว่า แม้จนถึงตอนนี้ ผู้นำรัสเซียยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ ว่าจะเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้มีโอกาสพูดคุยโดยตรงด้วยหรือไม่ แต่การที่เซเลนสกียืนกรานอย่างเปิดเผยว่า “ไม่อยากคุยกับปูติน” ก่อให้เกิดความวิตกกังวลอย่างหนักในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะยุโรป แอฟริกา และลาตินอเมริกา ซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายในรอบหลายทศวรรษ.

เครดิตภาพ : REUTERS