เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่บริเวณหอนาฬิกาสามวัฒนธรรม ซึ่งติดกับริมแม่น้ำปัตตานี ประชาชนต่างพาครอบครัวมาลอยกระทงกันอย่างคึกคัก เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา บูชารอยพระพุทธบาท และบูชาเทพเจ้า ตามคติความเชื่อ โดยกระทงที่ชาวปัตตานี ยังคงนิยมใช้ทำกระทง ก็ยังเป็นกระทงที่ทำมาจากหยวกกล้วยและวัสดุตามธรรมชาติ และที่เหลือก็จะเป็นกระทงขนมปัง ที่ทำมาจากขนมปังที่สามารถเป็นอาหารปลาได้

ขณะที่ชาวบ้านที่มาลอยกระทง ได้พบกับกลุ่มเด็กที่กระโดดน้ำจากสะพาน บางกลุ่มก็อยู่ใต้สะพาน ต่างพากันมาคว่ำกระทงของคนที่มาลอยเพื่อเก็บเหรียญในกระทงต่อหน้าต่อตาคนที่มาลอยโดยไม่แคร์สายตาใคร แม้เจ้าหน้าที่จะเตือนหลายครั้ง เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตราย แต่เด็กเหล่านี้ก็ไม่ฟัง พอเจ้าหน้าที่เดินไปตรวจตราทางอื่น ก็กระโดดน้ำลงไปเก็บเหรียญต่ออีก จนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างพูดว่า ทำไมถึงทำแบบนี้

ผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามผู้มาลอยกระทงกับภาพที่ปรากฏ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกตัดพ้อใจอย่างมาก เหมือนรู้สึกเราทำบุญแล้วไปไม่สุด ซึ่งทำให้ประชาชนที่ได้เห็นเกิดไม่อยากจะลอยกระทง ในความปลอดภัยก็กังวลว่าเด็กจะจมน้ำเพราะกระแสน้ำก็ค่อนข้างแรง หากเกิดอะไรขึ้นมาผู้ปกครองจะเสียใจมาก ซึ่งภาพที่กลุ่มเด็กเก็บเหรียญนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ปีนี้หนักกว่าทุกปีจริงมาก สงสารเด็กที่ไม่มีเงิน แต่เป็นไปได้ก็อยากให้กระทงไปไกลๆ นอกสายตาของคน ก่อนที่จะเก็บจะดีกว่า