เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับรายงานว่า เกิดเหตุสุนัขจรจัด ขย้ำเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ขณะนั่งกินขนมบริเวณหน้าร้านขายส้มตำริม ถนนสาย 3079 หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ส่งผลให้เด็กหญิงบาดเจ็บบริเวณใบหน้าใกล้ดวงตาข้างขวาเลือดอาบหน้า และศีรษะ หลังเกิดเหตุพ่อและแม่เด็กรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้เด็กกลับมารักษาตัวพักฟื้นที่บ้านแล้วจึงเดินทางไปตรวจสอบ

สอบถามแม่เด็ก อายุ 32 ปี เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุสามีกำลังอยู่หน้าร้าน ส่วนตนดูลูกอยู่ จังหวะนั้นตนหันหลังให้กับลูกสาวที่กำลังนั่งเล่นและกินขนมอยู่ พอหันไปอีกทีก็เห็นหมาตัวดังกล่าวพุ่งกระโจนเข้าใส่แล้วขย้ำใบหน้าลูกสาวแบบรวดเร็วมาก ทำให้ตกใจจนไม่มีสติ ลืมแม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ที่จะแจ้งกู้ภัย เพราะหันไปเห็นลูกโดนหมาขย้ำเลือดอาบใบหน้าเต็มไปหมด กระทั่งตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเข้าไปอุ้มลูกแล้วนำส่งตัวโรงพยาบาล รักษาพยาบาลเย็บไปกว่า 10 เข็ม ซึ่งผ่านมาหลายวันกลับมาบ้านลูกสาวยังมีอาการหวาดผวาตกใจกลัวตลอด เวลาเห็นหมาเดินผ่านหน้าร้าน จึงอยากจะฝากวิงวอนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจับหมาตัวดังกล่าวออกจากพื้นที่ไม่ให้เข้าใกล้เด็กหรือใกล้คนที่อาศัยอยู่แถวนี้ เพราะลูกตนไม่ใช่รายแรก เคยกัดคนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย

สอบถามเจ้าของห้องเช่า (ขอสงวนนาม) ละแวกดังกล่าว เล่าว่า หมาชื่อไอ้เขียว ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าของแต่เจ้าของย้ายออกไปแล้วแต่ไม่ได้เอามันไปด้วย เลยกลายเป็นหมาจรจัด และลูกหอพักตนก็เคยโดนกัดไป 1 คน ส่วนไอ้เขียวลักษณะนิสัยเป็นหมาที่เหมือนจะเชื่องไม่ค่อยดุ แต่จะมีอาการหวงอาหาร ส่วนมากคนที่โดนกัดจะเป็นคนที่ให้อาหารกับหมา หลังจากให้อาหารให้แล้วก็จะเอามือไปลูบหัวมันเพราะคิดว่าเชื่องไม่กัดแต่ก็โดนแว้งกัดกันไปหลายคน โดยเฉพาะลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ห่างร้านตนนั้นโดนกัดไปแล้วมากกว่า 3 ราย อยากวอนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบนำตัวออกจากพื้นที่ จะเอาไปทำยังไงก็ช่างเพราะเกรงว่ามันจะกัดเขาไปทั่ว

ดร.ผึ้ง เจ้าของเพจ ‘ดอกเตอร์ผึ้ง เกณิกา’ ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นหลายครั้งโดยเฉพาะพวกหมาจรที่กัดคนแล้วไม่มีผู้รับผิดชอบ ไม่มีเจ้าของหมา ทำให้ไม่สามารถเอาผิดใครได้ ตนจึงอยากจะฝากวอนถึงหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันผลักดันให้มีการคุ้มครองอย่างเท่าเทียม อย่างกรณีที่เกิดขึ้นก็อยากจะให้หน่วยงานท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นเทศบาลหรืออบต.เข้ามารับรองดูแล ก็จะทำให้ชาวบ้านรู้สึกถึงความปลอดภัย เพราะทุกวันนี้มีกฎหมายคุ้มครองสุนัขทำให้ชาวบ้านไม่สามารถตอบโต้หรือทำร้ายหมาได้ จึงอยากผลักดันนโยบายส่วนนี้ให้เท่าเทียมกัน เพื่อที่จะให้ทั้งคนและสุนัขอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายๆเคสหลายๆเหตุการณ์ พอหมาจรกัดคนแล้วคนที่ได้รับผลกระทบไปแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถเอาผิดได้เนื่องจากไม่มีเจ้าของกลายเป็นหมาจร ซึ่งเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังมานาน โดยคนที่โดนกัดก็จะกลายเป็นคนที่โดนลอยแพไม่ได้รับการเยียวยา.