จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีแหล่งท่องเที่ยวหลัก 3 ด้าน คือ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่มีความงดงาม โดดเด่น ลํ้าค่าและเลื่องลือในหลาย ๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือ ความงดงามทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีชื่อเสียงด้านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าเขตร้อนที่เขียวขจี เป็นแหล่งที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาหลายกลุ่ม เป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางสำรวจจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปในภาคเหนือ

สุดท้ายคือ แหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ที่มีการส่งเสริมและรักษาสุขภาพ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดรายการท่องเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อเรียนรู้วิธีใช้พลังงานจากธรรมชาติมาบำบัดรักษาและสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่มีแนวยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่เน้นด้านการท่องเที่ยว การสร้างภาพลักษณ์ การประชาสัมพันธ์เชิงรุกและการตลาด นอกจากการส่งเสริม พัฒนาการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว จึงได้จัดทำโครงการมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 ขึ้น เพื่อพลิกฟื้นการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยใช้แนวทางของการบูรณาการร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกิจกรรมภายในงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 ประกอบด้วยกิจกรรมดนตรีในสวน และนิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับโดยแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่ โซน A : Tropical Rain Forest ป่าฝนเขตร้อนแห่งกล้วยไม้นานาพันธุ์ จุดเด่นอยู่ที่กล้วยไม้สกุลฟาแลนนอปซิส, แวนด้า และไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่าง ๆ

โซน B : Winter Flowers Garden สวนบุปผาแห่งเหมันต์ แหล่งความงามของดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส มาครบทั้งดอกทิวลิป, ดอกไฮเดรนเยีย, ลิลลี่, ไซคลาเมน และไลเซนทัส โซน C : The Power of Sunshine พลังแห่งแสงอาทิตย์ ความสวยงามของดอกไม้เขตร้อน พบกับดอกฮอลลี่ฮ็อค, เจอราเนียม, บีโกเนียดอกซ้อน และสับปะรดสี

โซน D : Season Change ฤดูกาลที่เปลี่ยนผัน จุดเด่น ประดับไฟแสงสี ที่ให้บรรยากาศสีสันของฤดูกาลทั้ง 4 ให้แวะเวียนมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศสุดประทับใจ และโซน E : Field of Violets จุดเด่นคือ ทุ่งดอกบลูซัลเวียบานสะพรั่ง ชูดอกสีม่วงสวยสุดลูกหูลูกตา พร้อมชมการแสดงนํ้าพุดนตรีที่จะมีขึ้นวันละ 3 รอบ เวลา 19.00 น., 19.45 น. และ 20.30 น.

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการสาธิตและให้ความรู้ขั้นตอนการขยายพันธุ์ การแสดงกล้วยไม้ที่หาชมได้ยากที่ศูนย์เรียนรู้กล้วยไม้ด้วย

“งานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566” CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565-2 มกราคม 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณทิศตะวันออกของหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) ตั้งแต่เวลา 08.30-22.00 น. (ทุกวัน) กลางวันชมดอกไม้กลางคืนตื่นเต้นกับแสงสีจากดวงไฟนับล้านดวงฟรี ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook : Charming Chiang Mai Flower Festival

ก่อนจะไปชมดอกไม้และไฟหลากสี อย่าลืมไปเช็กอินจุดท่องเที่ยวยอดฮิตของเชียงใหม่ในห้วงเวลานี้อย่าง “คลองแม่ข่า” คลองโบราณซึ่งเป็น 1 ใน 7 ชัยมงคลที่พญามังรายทรงเลือกที่จะสร้างเมืองเชียงใหม่เมื่อกว่า 700 ปีที่แล้ว เมื่อ พ.ศ. 1839

นํ้าในคลองแม่ข่ามีต้นนํ้ามาจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อ.แม่ริม เดิมทำหน้าที่เป็นคูเมืองชั้นนอกที่โอบล้อมเมือง และเป็นทางระบายนํ้าล้นลงสู่แม่นํ้าปิง โดยไหลจากทิศเหนือเข้าผ่านตัวเมืองอ้อมตัวเวียงที่ล้อมรอบด้วยคูเมืองในบริเวณใกล้แจ่งศรีภูมิอ้อมเวียงทางทิศตะวันออกเปรียบเสมือนคูเมืองชั้นนอกและยังเป็นลำคลองสำคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนสองฝั่งคลอง ทั้งเป็นเส้นทางสัญจรของชุมชน

แต่การขยายตัวของชุมชนเมืองเมื่อสามทศวรรษที่ผ่านมาทำให้นํ้าในคลองเน่าเสียหนัก โดยมีความพยายามที่จะพัฒนาคลองนี้ให้กลับมามีสภาพปกติดังเดิมมาตลอด จนในที่สุดเทศบาลนครเชียงใหม่ได้พัฒนา ปรับปรุง ตามโครงการก่อสร้างระบบท่อรวบรวมนํ้าเสียของสองฝั่งคลอง พร้อมปรับภูมิทัศน์เฟสแรกที่ถนนระแกง-ประตูก้อม (สถานีสูบนํ้าเสียที่ 6) ระยะทางประมาณ 750 เมตร โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการใช้พื้นที่คลองแม่ข่า เพื่อให้ชุมชนได้ดูแลบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นระบบระเบียบ

วันนี้คลองแม่ข่าจึงมีทั้งร้านรวงขายอาหารพื้นเมือง ของที่ระลึก รวมถึงร้านกาแฟ-ชาเก๋ ๆ ให้แวะนั่งพักระหว่างเดินเล่นถ่ายรูปโดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่จะพร้อมใจกันเปิดให้บริการอย่างครึกครื้น ต้อนรับผู้มาเยือนพร้อมทั้งคืนชีวิตให้กับชุมชนดั้งเดิมแห่งนี้อีกครั้ง

ความสำเร็จจากการปรับปรุงระยะแรกที่มีผู้คนมากมายมาเยี่ยมเยือนเพราะบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ริมคลองโอตารุของญี่ปุ่น จึงนำมาสู่แผนการดำเนินงานปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแม่ข่าในระยะที่ 2 พร้อมปรับปรุงประตูระบายนํ้าศรีดอนไชย ช่วงที่ 1 ตั้งแต่ประตูระบายนํ้าศรีดอนไชยถึงสะพานระแกง และช่วงที่ 2 ตั้งแต่สะพานข้ามลำคูไหวถึงสะพานเวียงพิงค์

หากยังมีเวลาและพร้อมที่จะยืนรอ พุ่งตรงไปที่ฝั่งตรงข้ามทางเข้าสวนหลวง ร.9 พิพิธภัณฑ์เรียนรู้ราษฎรบนพื้นที่สูง เห็นคนยืนรอเยอะ ๆ แสดงว่ามาถูกที่แล้ว เพราะที่นี่คือร้าน “โรตีนะนะ” ร้านโรตีที่เกิดจากความที่ลูก ๆ ชื่นชอบโรตีจนพ่อกับแม่ต้องลุกขึ้นมาทำเอง ก่อนจะต่อยอดมาสู่โรตีหน้าแน่นแบบที่เห็นในปัจจุบัน บอกเลยว่าแค่มีเงินก็คงไม่พอต้องดวงดีจังหวะเหมาะไปทันก่อนที่จะหมดด้วย

สำหรับสายหวานร้านขนมอีกแห่งที่แนะนำคือ “Haloo Tokyo” ร้านขนมโตเกียวสไตล์มินิมอลขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในหอพักในกำกับสวนดอก มช. มีไส้ให้เลือกทั้งคาว-หวาน จะสั่งแบบไข่ล้วน บวกหมูสับ ไส้กรอก หรือไม่ไข่แต่เป็นพริกเผาหมูหยองแทนชอบซอสแบบไหนก็เลือกได้ทั้งมะเขือเทศ พริก มายองเนส ส่วนไส้หวานนอกจากครีมคัสตาร์ดกับสังขยาแบบเจ้าอื่น ๆ แล้ว ยังเพิ่มเติมด้วยมันม่วง เผือก เนยถั่ว และนูเทลล่า

ส่วนใครที่มองหาร้านอาหารเหนือแนะนำร้าน “วิถีลาบ เจริญเมือง” ย่านสันป่าข่อย พิกัดแถวถนนเจริญเมืองก่อนถึงสะพานนวรัฐ บรรยากาศร้านแนวคลาสสิกแบบชิค ๆ แต่รับรองว่าอาหารเมือง ยังคงรสชาติแบบดั้งเดิม ทั้งลาบเมืองคั่ว จิ๊นนึ่ง จิ๊นส้ม แกงอ่อมรวมไปถึงส้มตำ คอหมูย่างที่ว่าเด็ด อิ่มแล้วยังสามารถเดินออกไปหาคาเฟ่ที่เรียงรายอยู่หลายร้านในย่านนี้ปิดท้ายได้อีกด้วย.

อธิชา ชื่นใจ