เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุมวลน้ำป่าจำนวนมาก ไหลหลากลงมาจากเทือกเขาบรรทัด ผ่านน้ำตกต่างๆ ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ของ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง อย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนทั้งตำบล จำนวน 15 หมู่บ้าน เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 ครัวเรือน ประชากรนับหลายพันชีวิต ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ของอุกภัยในครั้งนี้ โดยในพื้นที่ ต.ปะเหลียน ถือว่าการเข้าท่วมครั้งนี้รุนแรงเป็นอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา และทั้งนี้ น้ำยังคงไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนจำนวน 2 แห่ง คือโรงเรียนบ้านหาดเลา โรงเรียนบ้านปะเหลียน และสถานที่ราชการ เช่น รพ.สต. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของโรงเรียนจำนวน 2 โรงดังกล่าว ได้มีการงดการเรียนการสอนไปก่อนเป็นการชั่วคราว ซึ่งระดับน้ำส่วนใหญ่สูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง 3 เมตรในบางพื้นที่

ส่วนในพื้นที่บ้านป่ากอ หมู่ 5 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน ได้มีชาวบ้านต่างพื้นที่ประสบภัย ติดอยู่ภายในตัวอาคาร หนีออกมาไม่ทัน ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุธนัย แซ่ภู่ อายุ 54 ปี ชาว จ.นราธิวาส อาศัยเกาะขื่อของตัวอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นศาลาที่มวลน้ำไหลเข้าท่วมระดับความสูงเกือบมิดหลังคา ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต่างพยายามช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยการใช้เชือกจำนวน 3 เส้น โยนปลายสายไปให้ผู้ประสบภัย พร้อมทั้งส่งเสื้อชูชีพไปให้สวมใส่ ก่อนจะทำการมัดเชือก เพื่อให้ผู้ประสบภัยไต่ออกมา เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปได้ และการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากและทุลักทุเล เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับลำคลอง กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกรากเป็นอย่างมาก ก่อนที่ทางผู้ประสบภัยจะตัดสินใจไต่เชือกดังกล่าวออกมาระยะทางกว่า 30 เมตร ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงออกมาได้สำเร็จและปลอดภัยในที่สุด ท่ามกลางความลุ้นระทึกของชาวบ้านและผู้ที่ให้การช่วยเหลือ

นายสุธนัย ผู้ประสบภัย เล่าหลังจากรอดชีวิตว่า ตนเองเป็นชาว จ.นราธิวาส มาช่วยเพื่อนต่อเรือที่จุดดังกล่าว และก่อนจะเกิดเหตุได้เข้าไปมัดไม้ในศาลาดังกล่าว แต่ปรากฏว่าระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถออกกลับมาได้ จึงได้ขึ้นไปเกาะอยู่กับคาน หรือขื่อของศาลาดังกล่าว ได้โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากกระแสน้ำแรง กลัวว่ามือถือจะเปียกน้ำ อาจทำให้ไม่สามารถติดต่อกับคนข้างนอกได้ ซึ่งตนติดอยู่ในศาลาอาคารดังกล่าวกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะไต่เชือกที่ทีมช่วยเหลือโยนมาให้อย่างปลอดภัย แต่ยอมรับว่าตนมีสติตลอดเวลา เพราะเชือกผูกติดกับตัวไว้ 2 เส้น จึงกล้าที่จะไต่ออกมา อยากจะขอบคุณผู้ช่วยเหลือทุกคนที่ทำให้ตนรอดปลอดภัยออกมาได้

ด้าน นายณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน เปิดเผยว่า อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันนี้ (19 ธ.ค.) น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ของ ต.ปะเหลียน ทั้ง 15 หมู่บ้าน กว่า 1,000 ครัวเรือน ต.แหลมสอม อีกประมาณ 600 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว แต่ฝนยังมีตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงช่วยเหลือชาวบ้านหลายพันชีวิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งทางทหารของ ร.15 พัน 4 ก็ได้เข้ามาถึงพื้นที่แล้ว ซึ่งสถานการณ์ก็ยังคงต้องระวังอยู่ โดยน้ำในครั้งนี้ ระดับน้ำที่เข้าท่วมมากกว่าครั้งที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ประสานไปยังพื้นที่ปลายน้ำ ให้เตรียมพร้อมรับมือเป็นการเร่งด่วน และให้ อบต.ปะเหลียน เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ในการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น อบต.ปะเหลียน จะมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ได้รับความเดือดร้อน ภายในวันที่ 19 ธ.ค. 65 กรณีมีการอพยพผู้ได้รับความเดือดร้อน ได้ให้ อบต.ปะเหลียน จัดเตรียมอาคารอเนกประสงค์ หมู่ 1 ต.ปะเหลียน ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามข่าวสารให้ทันต่อเหตุการณ์ และแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมรับสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำใน จ.ตรัง ได้รับความเดือดร้อนแล้วจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นาโยง อ.ปะเหลียน อ.ห้วยยอด และ อ.ย่านตาขาว รวมและประมาณกว่า 2,000 ครัวเรือน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บข้าวของหรือขนย้ายได้ทัน เนื่องจากน้ำป่าได้หลากลงมาอย่างรวดเร็ว และต้องหนีเพื่อเอาชีวิตรอดไว้ก่อน ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

.