เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง โพสต์ภาพต้นขาด้านหลังมีรอยแผลเป็นถูกความร้อนขนาดเท่าฝ่ามือ ลงกลุ่ม “คนรักบุฟเฟ่ต์ (Buffet Lovers)” พร้อมระบุข้อความว่า “แชร์อุทาหรณ์ของคนรักบุฟเฟ่ต์!!!!! ปกติชอบกินบุฟเฟ่ต์มากๆค่ะ ไปเกือบทุกร้านที่ดังๆ ไม่ว่าใกล้หรือไกลไปหมด แต่เหตุการณ์ที่เจอทำให้เราไม่กล้าไปกินอีกเลย เป็นปมในใจตลอดชีวิต *เหตุมันมีอยู่ว่าเราไปกินบุฟเฟ่ต์ชื่อดัง ย่านนนทบุรี ราคาก็พอสมควร แต่สิ่งที่เจอคือการทำงานสะเพร่า เอาเก้าอี้เหล็กที่วางเตาร้อนๆมาให้ลูกค้านั่ง ซึ่งเกาอี้นั้นพนักงานได้วางเตาไว้ คือแผลใกล้จุดสำคัญมากๆค่ะ แผลใหญ่มากเท่าฝ่ามือเราค่ะ”

ภายหลังมีการโพสต์ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก กระทั่งเจ้าของโพสต์เข้ามาอธิบายเพิ่มเติมว่า “สวัสดีค่ะ พี่นักข่าวทุกช่องหนูขอบคุณพี่มากที่สนใจกับข่าวแบบนี้ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้ที่หนูออกมาแสดงตัวตนว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะมันมีเหตุและผล เหตุคือวันที่1 ตอน2ทุ่มครึ่งหนูไปกินบุฟเฟต์ปิ้งย่าง หนูเลยดูรีวิวแล้วก็ตามไปกินที่รีวิวย่านประชาชื่น แถวนนทบุรีและรอตามคิวพอถึงคิว น้องพนักงานก็เอาเก้าอี้ตัวนั้นมาให้นั่ง ซึ่งวันนั้นได้ใส่กางเกงขาสั้น ไม่ได้เอะใจอะไรพอนั่งลงไปก็เกิดเรื่องค่ะ มันร้อนมาก ก็เลยดีดตัวขึ้นด้วย ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนจนพนักงานได้ไปซื้อยามาให้ทาและเอาน้ำแข็งมาประคบ ตอนนั้นหนูคิดว่าเป็นนิดเดียวไม่ได้เป็นอะไรมาก ด้วยความขับรถมาไกลจากลาดกระบังเลยนั่งกินต่อ แต่กินไปสักพักก็ทนไม่ไหวมันรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากขึ้น หนูเลยรีบเช็คบิลกลับ หนูบอกให้พนักงานและผู้จัดการ ร้านให้พาไปโรงพยาบาลหน่อยได้ไหมแต่เขาบอกว่าทำงานไม่มีรถพาไป หนูทนบาดแผลไม่ไหวมันปวดแสบปวดร้อนมากค่ะหนูกลัวติดเชื้อหนูก็เลยไปรักษาเอง

ส่วนผลกระทบคือ หนูทำงานเป็นพริตตี้ เอนเตอร์เทน ทำงานคลับค่ะ ต้องแคนเซิลงานทั้งหมดที่รับ เสียเวลา ขาดรายได้และต้องคอยไปรักษาแผลทุกวันเป็นเวลา 15 วัน มีปัญหากับการใช้ชีวิตประจำ เช่นต้องยืนฉี่ไม่ให้โดนแผล เวลาปวดหนักต้องอดทนเพราะไม่สามารถนั่งขับถ่ายได้ ไม่ได้อาบน้ำเป็นอาทิตย์ ตอนนี้แผลแห้งแล้วค่ะ แต่ก็ยังจะเป็นแผลเป็นอยู่ ต้องซื้อยาทายากินเรื่อยๆ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะหายตอนไหน แล้วหนูก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปทำงานเมื่อไหร่ค่ะ หนูได้คุยกับตัวแทนร้านแล้วค่ะ เขาก็ออกมารับผิดชอบ จ่ายค่ารักษาให้ แค่วันต่อวันที่ไปล้างแผลเท่านั้น แต่หนูสำรองเงินออกไปก่อนทุกครั้ง กว่าเขาจะโอนเงินมาให้ช้ามากค่ะ แล้วสภาพจิตใจหนูตอนนี้คือแย่และดิ่งสุดเพราะทำงานไม่ได้หลายวันมาก แผลกับผู้หญิงทุกคนเข้าใจดีนะค่ะ คือถ้าไม่หายหรือเป็นแผลเป็นสภาพจิตใจย่ำแย่ขนาดไหน อาจจะเป็นแผลเป็นตลอดชีวิตเลยก็ได้ ถ้าทางร้านมีความกระตือรือร้นในการรับผิดชอบหนูคงไม่ออกมาแบบนี้หรอกค่ะ หนูเลยต้องออกมาพูดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่น ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก”

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ ร้านบุฟเฟ่ต์ดังกล่าว ย่านประชาชื่น อ.เมือง จ.นนทบุรี พบนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ดูแลร้าน เบื้องต้นเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. หลังจากได้ทราบเรื่องรอบแรกได้เจรจาไปแล้ว 1 รอบผู้เสียหายเสนอมาเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง ครั้งที่ 2 เสนอเงิน 50,000 บาท เป็นข้อเสนอแต่เขาไม่ยอมรับ เขาขอเงิน 200,000 บาทเป็นอย่างน้อยเป็นเงินส่วนที่ทำงานวันละ 10,000 บาทไม่รวม ค่าทำขวัญ การคุยครั้งที่ 2 ตอนแรกถามกลับไปว่าทำงานที่ไหนครับ มีสเตทเม้นในการรับเงินไหมตอนนี้ก็ยังไม่ทราบข้อมูล ทางร้านได้ยื่นข้อเสนอไปเรียบร้อยแล้ว ทางเขาได้พาไปหาหมอตั้งแต่วันนั้นแล้วได้เบิกค่ารักษาพยาบาล วันนั้นเลยกว่า 4,000 บาท หลังจากนั้นได้มีการนัดหมายกันวันอาทิตย์ช่วงต้นเดือน เจอกันที่ร้านอาหาร ครั้งที่ 2 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขายืนยันว่าต้องเป็นตัวเลข 200,000 บาท ไม่ได้ลดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลค่าน้ำมันรถ ค่าอื่นๆค่ายานอกที่เขาซื้อมาเอง ซึ่งทางตนยังบอกว่า แนะนำให้ซื้อเอาจากเภสัชดีกว่าไหม อาจจะมีผลกับแผล ให้ไปที่โรงพยาบาลตนก็แนะนำไปในที่ที่ดีที่สุด เพื่อให้แผลหายได้เร็วที่สุด หลังจากเกิดเหตุใช้ต่อเนื่อง ค่าล้างแผลวันแรกๆ 700 กว่าบาทได้ลดลงมา ส่วนบิลสุดท้าย 400 กว่าบาท เขาแจ้งมาว่าแผลแห้งแล้ว นั่งได้ปกติแต่อาจจะเป็นแผลเป็นบ้าง ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่วันเกิดเหตุทางร้านเบิกจ่ายไป เป็นจำนวนเงิน 19,000 กว่าบาทแล้ว.