เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ต.นาทราย อ.ลี้ จ.ลำพูน พระครูอรรถกิจจาทร (ครูบาอุ่น อัตถกาโม) เจ้าอาวาสวัดโรงวัว อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นประธานพิธีประชุมเพลิงศพ พระครูพินิจ สารธรรม หรือ “ครูบาเจ้าพรรณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และอดีตเจ้าคณะ ต.นาทราย อ.ลี้ โดยมีพระสงฆ์ สามเณรจากวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนที่เป็นชาวปกาเกอะญอ จำนวนนับหมื่นคน​ ร่วมพิธีด้วย

โดยพิธีดังกล่าว เริ่มคณะสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์ ก่อนที่พระสงฆ์จะช่วยกันเปลี่ยนจีวรของครูบาเจ้าพรรณ ซึ่งมีสภาพร่างกายไม่เน่าเปื่อย ผิวเนื้อ เอ็น กระดูก ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ คล้ายคนกำลังนอนหลับ จากนั้นพระสงฆ์หลายรูปช่วยกันบรรจุร่างครูบาเจ้าพรรณลงโลงแก้ว เสร็จแล้วศิษยานุศิษย์ต่างช่วยกันแห่ร่างรอบพระอุโบสถ และศาลาพระพุทธบาทภายในวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ทั้งสิ้น 3 รอบ โดยมีพระสงฆ์ สามเณร จำนวนกว่า 300 รูป นำหน้าขบวนแห่ พร้อมกับชาวปกาเกอะญอต่อแถวยาวนับกิโลเมตร

ระหว่างเส้นทางที่ขบวนโลงแก้วเคลื่อนผ่าน ชาวปกาเกอะญอจำนวนนับหมื่นราย ต่างโปรยกลีบดอกดาวเรืองไปยังโลงแก้วอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเคารพ ขณะที่ชาวปกาเกอะญออีกหลายกลุ่ม ได้นำวงดนตรีพื้นเมืองมาร่วมบรรเลงในพิธีด้วยจำนวนนับสิบวง ทั้งนี้ ถึงแม้บรรยากาศจะเนื่องแน่นไปด้วยชาวปกาเกอะญอ แต่เป็นไปด้วยความสงบ สำรวม ระวัง และเคารพบูชา ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง พิธีแห่ขบวนจึงจบลง ก่อนจะนำร่างครูบาเจ้าพรรณไปยังจุดประชุมเพลิง ซึ่งสร้างเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ เพื่อประชุมเพลิงต่อไป ทั้งนี้ พิธีดังกล่าว มีทั้งสิ้น 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-19 ม.ค. 66 โดยวันสุดท้ายจะเป็นพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ

พระสมชาย วชิรญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทผาหนาม เปิดเผยว่า ครูบาเจ้าพรรณ ท่านมรณะด้วยความชรามาเกือบ 2 ปีแล้ว ด้วยอายุ 92 ปี อยู่ในเพศบรรพชิต 72 พรรษา สาเหตุที่สภาพร่างกายไม่เน่าเปื่อย คงมาจากความที่ครูบาพรรณ เป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และยังไม่ฉันเนื้อสัตว์โดยตลอดชีวิต

พระสมชาย เปิดเผยอีกว่า สำหรับครูบาเจ้าพรรณ ตลอดชีวิตเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เช่น สร้างวัด โรงเรียน หลายแห่ง กับเผยแพร่ธรรมอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวปกาเกอะญอและคนเมืองจำนวนมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการประชุมเพลิง ถึงร่างกายจะไม่เน่า แต่ก็มีจำเป็นต้องประชุมเพลิงท่าน เนื่องจากวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม มีพระอีก 1 รูป ที่มรณภาพไปนานแล้ว ไม่เน่าเปื่อยเช่นกัน คือ ครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เช่นเดียวกัน โดยมรณภาพไปหลายปีแล้ว กับครูบาเจ้าพรรณ

“ตามความเชื่อแล้ว ไม่สมควร ไม่เหมาะสม ที่จะเก็บร่างครูบา 2 รูป ที่ไม่เน่าไว้ทั้งคู่ คณะสงฆ์ ชาวบ้าน กรรมการวัด ตลอดจนศิษยานุศิษย์ จึงมีมติให้ประชุมเพลิงร่างครูบาเจ้าพรรณ โดยจะมีพิธีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 19 ม.ค. นี้ ซึ่งเฉพาะเพียงวันนี้ ก็มีชาวปกาเกอะญอ คนเมือง มาร่วมพิธีเกือบ 50,000 คนแล้ว คาดว่าวันสุดท้ายของพิธีคนจะแน่นกว่านี้ ทำให้วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ต้องเตรียมห้องน้ำไว้ ทั้งสร้างใหม่ทั้งที่มีอยู่ในวัด รวมเกือบ 100 ห้อง กับทำโรงทานนับสิบโรงไว้คอยเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมพิธีตลอดทั้งวัน ทั้งคืน” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทผาหนาม กล่าว

สำหรับครูบาเจ้าพรรณ เป็นพระสายครูบาศรีวิชัย ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายรูป รวมทั้งครูบาเจ้าพรรณด้วย พระสายนี้มีความค่อนข้างพิเศษ คือจำนวนหลายรูป ถึงแม้จะมรณภาพไปแล้ว แต่ร่างกายกลับไม่เน่าเปื่อย เหมือนคนกำลังนอนหลับ เพียงแต่ไม่หายใจเท่านั้น เช่น ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี, ครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา, ครูบาเจ้าดวงดี, ครูบาสร้อย รวมทั้งครูบาเจ้าพรรณนา และอีกหลายรูป ทั้งนี้ สาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่เชื่อกันว่า สภาพร่างกายไม่เน่าถึงจะมรณภาพไปแล้ว คือการนำน้ำผึ้งกรอกใส่ปากท่านครูบาที่กล่าวมา หลังจากมรณภาพไปไม่นาน ด้วยความเชื่อว่า น้ำผึ้งจะช่วยรักษาร่างกายไว้ ให้ไม่เน่า โดยเรื่องนี้เป็นความเชื่อของคนสมัยก่อน.