ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุทัย หนูวุ่น เกษตรอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร ด้วย BCG แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ ระดับอ.ครบุรี นำคณะลงพื้นที่ส่งเสริมการเพาะปลูกมันสำปะหลัง BCG Model ในพื้นที่ โดยทางคณะปฏิบัติการฯ ได้เลือกแนวคิดในการเพาะปลูกมันสำปะหลังของ นายจรัส ศรีพิทักษ์ อายุ 51 ปี เกษตรกรบ้านซับสะเดา หมู่ที่ 11 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นเกษตรกรต้นแบบ ที่นำมันสำปะหลังมาใช้ประโยชน์เพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ได้ทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/01/IMG_20230113_094920-1024x577.jpg)
สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วย BCG Model แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ จะใช้กระบวนการส่งเสริมเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นการพัฒนาโดยยึดพื้นที่เป็นหลัก มีการกำหนดขอบเขตในการดำเนินการอย่างชัดเจน ทั้งมิติพื้นที่ คน และสินค้า ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมพัฒนาตามความต้องการของพื้นที่ บูรณาการการดำเนินงานและงบประมาณกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาคีระดับพื้นที่และระดับนโยบาย รวมถึงการพัฒนาต่อยอดจากฐานการพัฒนาที่มีอยู่แล้ว เช่น กลุ่มแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร เป็นต้น ในส่วนของอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมานั้น ได้เลือกเอา มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของพื้นที่ มาดำเนินการ ซึ่งทางอำเภอได้เฟ้นหาเกษตรกรต้นแบบ ที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรมันสำปะหลังให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างนายจรัส ศรีพิทักษ์ มาเป็นต้นแบบเพื่อดำเนินการส่งเสริมต่อยอดให้ประสบความสำเร็จและเป็นต้นแบบของเกษตรกรอื่นๆต่อไป
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/01/IMG_20230113_110329-1024x577.jpg)
ทั้งนี้ การจัดการมันสำปะหลังของ นายจรัส ศรีพิทักษ์ นั้น มีการนำมันสำปะหลังมาใช้ประโยชน์แทบทุกกระบวนการ เริ่มต้นจากการคัดท่อนมันเพื่อนำมาเพาะปลูกภายในแปลงของตนเอง ปลูกลงแปลงเอง เมื่อครบอายุเก็บเกี่ยวก็นำเงินที่ได้มาลงทุนต่อยอดเตรียมการสร้างอาชีพเสริมโดยใช้ส่วนประกอบของทันสำปะหลังมาเป็นวัตถุดิบหลัก ด้วยการนำกากมันสำปะหลังมาเพาะเชื้อเห็ดฟาง สร้างรายได้เสริมในช่วงที่รอการเก็บเกี่ยว เมื่อเห็ดฟางหมดรุ่นแล้ว ก็จะนำเชื้อเห็ดฟางที่เหลืออยู่ ไปใช้เป็นปุ๋ยให้มันสำปะหลัง เนื่องจากมีคุณสมบัติเสริมสร้างธาตุอาหารในดิน เพิ่มความร่วนซุยทำให้มันสำปะหลังลงหัวดีขึ้น ขณะที่เหง้ามันสำปะหลังที่เคยเหลือทิ้ง ก็จะถูกนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการอบเห็ดฟางด้วย ซึ่งถือเป็นการใช้ทรัพยากรจากมันสำปะหลังมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ตั้งแต่ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมถึงสามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ซึ่งตรงตามหลักปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร ด้วย BCG แบบบูรณาการ ภายใต้แนวทาง BCG Value Chain มันสำปะหลัง จ.นครราชสีมา โดยผลจากการทดลองดำเนินการของนายจรัส ศรีพิทักษ์ ตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ได้ผลผลิตมันสำปะหลังแม้ไม่มีระบบน้ำต่อไร่สูงถึง 7 ตันต่อไร่ จากค่าเฉลี่ยพื้นที่ที่จะอยู่เพียง 3-3.5 ตันต่อไร่ ขณะที่จะมีรายได้เสริมจากการเพาะเลี้ยงเห็ดปีละประมาณ 300,000 บาทด้วย.