วันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ อ.ประโคนชัย ว่า ที่วัดจำปา ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เกิดเหตุรถเครนล้มทับศาลาการเปรียญของวัด ระหว่างกำลังซ่อมเมรุภายในวัด ทำให้ศาลาการเปรียญ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์ของผู้รับเหมา จากการตรวจสอบที่วัดจำปา พบว่าศาลาการเปรียญของวัดได้รับความเสียหายประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ตัวเมรุได้รับความเสียหาย และพบรถเครนล้มลง ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน

สอบถาม พระวิชัย กิติศาโร อายุ 60 ปี พระลูกวัดจำปา เล่าว่า เจ้าอาวาสได้จ้างผู้รับเหมามาเปลี่ยนปล่องปล่อยควัน จากปูนมาเป็นสเตนเลส เพราะปล่องไฟใช้มานานกว่า 40 ปี ช่วงเกิดเหตุมีคณะกรรมการมาเฝ้าดูระหว่างการยกเอาปล่องไฟเดิมออก ทันใดนั้นเครนได้ล้มลงเสียงดังสนั่น พระแต่ละรูปต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

นางสมปอง ละประโคน อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ 2 ต.ประโคชัย อ.ประโคนชัย แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างวัด เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังสนั่น คิดว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มารู้อีกทีตอนเช้าของวันนี้ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบ แต่ได้ยินชาวบ้านเล่าต่อกันว่า ผู้รับเหมาลบหลู่เมรุ เพราะไม่มีการทำพิธีขอขมาก่อนจะทำการรื้อถอน เห็นเพียงจุดธูปดอกเดียว แล้วลงมือทำงาน สิ่งที่มองไม่เห็นไม่ควรจะลบหลู่ หรือทำแบบง่ายๆ เพราะแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน

ด้านนายมานพ สวัสดี อายุ 60 ปี อยู่เลขที่ 18 หมู่ 2 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย คณะกรรมการวัด เล่าว่า ปล่องเมรุเดิม ก่อด้วยอิฐ และปูน มีทั้งความสูง และหนา กว้างประมาณ 2 เมตร ยาวกว่า 16 เมตร น้ำหนักกว่า 5 ตัน จริงแล้วเจ้าอาวาสให้แบ่งตัดออกเป็น 3 ท่อน แล้วใช้เครนยกลงมาทีละท่อนเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้รับเหมาเลือกตัดแล้วยกทีเดียว เหมือนต้องการให้งานเสร็จเร็ว แต่ลืมคำนึงถึงเครนว่า จะยกไหวหรือไม่ เท่าที่มองด้วยตาเปล่าเครนตัวเล็ก ส่วนมูลค่าความเสียหายตอนนี้ประมาณ 2 ล้านบาท ยังไม่ได้คุยกับผู้รับเหมาถึงรายละเอียดการรับผิดชอบ หลังจากนี้ซึ่งต้องรอเจ้าอาวาส กลับมาจากต่างจังหวัดก่อน