จากกรณีเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ตรงกับวันที่ 23 ม.ค. 66) เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมและสร้างความปลอดภัยให้สังคม รวมถึงแก้ปัญหาและลดอัตราการกระทำความผิดซ้ำนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ม.ค. พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 บังคับใช้วานนี้นั้น โดยในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดพิจารณากำหนดมาตรการการกระทำความผิดซ้ำ หรือคณะกรรมการตามมาตรา 16 ได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดมาตรการให้แก่ผู้ต้องขังเด็ดขาด 29 ราย ซึ่งจะพ้นโทษได้รับการปล่อยตัว ระหว่างวันที่ 24 ม.ค.-31 ม.ค.

อย่างไรก็ตาม การประชุมเสร็จสิ้นไปเมื่อช่วง 12.00 น. ซึ่งผลการประชุมมีมติกำหนดให้นักโทษเด็ดขาดตามมาตรา 3 เหล่านี้ที่จะพ้นโทษ ให้ใช้มาตรการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานอัยการที่จะต้องนำเสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่า นักโทษเด็ดขาดเหล่านี้ จะถูกกำหนดให้ใช้มาตรการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษตามมติของคณะกรรมการหรือไม่ นอกจากนี้ หากอัยการสามารถส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาทัน และศาลมีคำสั่งออกมา คาดว่าจะมีนักโทษจากในจำนวนดังกล่าวประมาณ 4 ราย ทยอยได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพร้อมกับมาตรการที่ได้ครอบคลุมไว้ และในระหว่างไปจนถึงปลายเดือน ม.ค. ก็จะมีการทยอยปล่อยตัวนักโทษที่เข้าข่าย พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ออกจากเรือนจำเรื่อยๆ เมื่อครบกำหนดพ้นโทษ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.มนตรี เผยอีกว่า ส่วนมาตรการทางการแพทย์ หรือ การฉีดยาปรับฮอร์โมนให้นักโทษเด็ดขาดตามมาตรา 3 หรือ นักโทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลนั้น เบื้องต้นยังไม่พบว่าจะมีการพิจารณาให้ใช้แต่อย่างใด.