เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พาผู้เสียหาย 20 คน จากทั้งหมด 34 คน เข้าพบ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี หลังซื้อรถมิตซูบิชิ ป้ายแดง มานานเป็นปี แต่ยังไม่ได้รับป้ายทะเบียน ทำให้เดือดร้อนเพราะถูกตำรวจจับกุมบ่อยครั้ง และไม่แน่ใจว่าจะใช้รถได้ตามปกติหรือไม่

ทนายเดชา เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวไปเปิดบูทขายรถในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่จ.ลพบุรี อ้างว่า เมื่อซื้อรถไปแล้วสามารถจดทะเบียนได้ภายใน 30-45 วัน และจากนั้นอีก 30 วัน ก็จะได้ป้ายทะเบียนขาว มีผู้หลงเชื่อซื้อรถไปทั้งหมด 36 คน ทั้งแบบเงินสดและเงินผ่อน แต่หลังจากรับรถเป็นทะเบียนป้ายแดงมานาน 1-2 ปี ทางโชว์รูมยังไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย จนผู้เสียหายต้องใช้รถป้ายแดงที่ติดรถมาเหมือนกับต้องขับรถเถื่อน จึงขอให้ตนพามาแจ้งความความดำเนินคดีกับเจ้าของโชว์รูม ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน พร้อมอยากเรียกร้องให้บริษัทไฟแนนซ์นำป้ายขาวมามอบให้กับลูกค้าด้วย หรือลูกค้าบางรายที่จะขอคืนรถทางบริษัทไฟแนนซ์ก็ต้องชดเชยค่าเสียหายให้ ไม่เช่นนั้นก็จะดำเนินคดีทางแพ่งกับโชว์รูมและบริษัทไฟแนนซ์อีกกรณี

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า ต้องทนใช้รถป้ายแดงมานานกว่า 1 ปี จนถูกตำรวจจับบ่อยครั้ง เมื่อทวงถามไปทางโชว์รูมก็อ้างว่า มีปัญหาภายในบริษัทขอให้รอไปก่อน ทุกวันนี้จึงเหมือนผ่อนรถเถื่อนใช้ไปวันๆ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

ทั้งนี้ ทนายเดชาได้แนะนำผู้ที่ประสบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ว่า อันดับแรกให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับโชว์รูมรถ รวมทั้งแจ้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อให้ไปตรวจสอบโชว์รูมคู่กรณี ส่วนการฟ้องร้องทางแพ่งนั้นสามารถดำเนินการได้ทั้งกับโชว์รูมและบริษัทไฟแนนซ์ เนื่องจากไม่ได้ปฎิบัติตามข้อตกลงในสัญญา ซึ่งทางผู้เสียหายไม่ต้องผ่อนรถต่อกับบริษัทไฟแนนซ์ด้วย เนื่องจากเคยมีคดีตัวอย่างที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสียหาย เนื่องจากบริษัทไฟแนนซ์ไม่ปฏิบัติตามสัญญา

ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนี้จะส่งตำรวจ ปคบ.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นพบทางโชว์รูมอาจเข้าข่ายกระทำความผิดดังกล่าว.