เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ทวิดา กมลเวชช ได้เน้นย้ำมาตรการดูแลประชาชนเชิงรุก ขยายเวลาให้บริการคลินิกมลพิษทางอากาศทั้ง 5 แห่ง และสั่งการให้หน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่ออกปฏิบัติการเชิงรุกดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์ฝุ่น pm 2.5 มีค่าสูงเกินมาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการคลินิกมลพิษทางอากาศ โรงพยาบาลกลาง สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร มีบริการคลินิกมลพิษทางอากาศเปิดดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสิรินธร และโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งกระจายทั่วทั้งพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการพี่น้องประชาชนประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ แต่ด้วยสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น น.ส.ทวิดา ได้สั่งการให้ยกระดับขยายเวลาเปิดให้บริการของคลินิกมลพิษทางอากาศ ให้สอดคล้องกับการคาดการณ์และสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5

โดยในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คลินิกฯ ทั้ง 5 แห่งจะเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 1-4 ก.พ. 66 ที่จะมีค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมให้ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ออกหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จากสถิติประชาชนที่มารับบริการที่โรงพยาบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข จะพบว่าส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเรื่องฝุ่นละอองเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อสุขภาพ คลินิกมลพิษทางอากาศที่เปิดให้บริการนี้ จะทำการคัดกรองอาการ ให้คำแนะนำและการรักษา รวมถึงการซักประวัติเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและให้ข้อแนะนำในการปรับพฤติกรรมต่างๆ ให้เหมาะสม

นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการผ่านคลินิกออนไลน์ โดยประชาชนสามารถคัดกรองประเมินอาการตนเองในเบื้องต้น และหากมีอาการรุนแรงสามารถเข้าสู่ระบบการรักษาที่โรงพยาบาลได้ทันที หรือขอรับคำปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โทร. 1646

รวมทั้งยังดำเนินการในเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ สำนักงานเขต สถานีตำรวจนครบาล โรงเรียน ให้ความรู้ ข้อแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจะเน้นการเข้าถึงกลุ่มเปราะบางในพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ รวมถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง รวมถึงการแจกหน้ากากอนามัยให้กับกลุ่มเปราะบางในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูง

สำหรับกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรเลี่ยงพื้นที่ฝุ่นสูง หรือลดระยะเวลาออกนอกอาคารให้น้อยที่สุด หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และงดการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมทั้ง ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท หรืออยู่ในห้องปลอดฝุ่นและสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที.