สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยแพร่ภาพถ่าย “บอลลูนสอดแนม” ของจีน บันทึกระยะใกล้แบบเซลฟี่ โดยนักบินประจำเครื่องบินสอดแนมทางทหาร ล็อกฮีด ยู-2 เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่บอลลูนลอยตัวอยู่เหนือภูมิภาคทางตอนกลางของสหรัฐ ก่อนถูกยิงตกโดยเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ให้ตกทะเล ที่นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของสหรัฐ ระบุว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวปรากฏตัวในเขตน่านฟ้าของสหรัฐเป็นครั้งแรก ที่รัฐอะแลสกา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเคลื่อนตัวเข้าสู่น่านฟ้าของแคนาดา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา แล้วกลับเข้าสู่น่านฟ้าของสหรัฐอีกครั้ง ที่รัฐไอดาโฮ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ต่อจากนั้น วัตถุเคลื่อนตัวผ่านแผ่นดินของสหรัฐตลอด ไม่ผ่านทะเล ทำให้ยากแก่การยิง


นอกจากนี้ การที่บอลลูนเคลื่อนผ่านฐานทัพอากาศ มาล์มสตรอม หนึ่งในฐานทัพนิวเคลียร์แห่งสำคัญของสหรัฐ ซึ่งเก็บหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 150 หัว ที่รัฐมอนแทนา เพิ่มความวิตกกังวลให้กับฝ่ายความมั่นคง แม้มีการประเมินในเบื้องต้นว่า บอลลูนลูกนี้ไม่น่ามี “ศักยภาพขั้นสูง” ในการรวบรวมข้อมูล


อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นการยกระดับความตึงเครียดครั้งใหม่ ให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน โดยรัฐบาลปักกิ่งยืนกรานว่า “วัตถุ” ที่รัฐบาลวอชิงตัน “สงสัยและกล่าวหา” ว่าเป็น “บอลลูนสอดแนม” ของรัฐบาลปักกิ่ง ลอยตัวอยู่ในเขตน่านฟ้าของสหรัฐ “คือเรือเหาะเก็บข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา” ซึ่ง “ลอยเข้ามาในเขตน่านฟ้าของสหรัฐโดยไม่เจตนา” พร้อมทั้งตำหนิอีกฝ่าย “กระทำการเกินกว่าเหตุ”.

เครดิตภาพ : REUTERS