สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง เผยแพร่แถลงการณ์ของ น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของ นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ว่าการซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ “ยังถือเป็นปัจจัยสำคัญ” ของการสร้างบรรยากาศตึงเครียด ให้ปกคลุมไปทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลี การฝึกซ้อมทางทหารในส่วนของเกาหลีเหนือจะดำเนินต่อไปเช่นกัน
ขณะเดียวกัน น้องสาวของท่านผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือกล่าวต่อไปว่า “มหาสมุทรแปซิฟิกไม่ใช่เขตอิทธิพลของสหรัฐหรือญี่ปุ่น” ดังนั้น หากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบ เคลื่อนตัวผ่านแล้วได้รับความเสียหาย จากการยิงทำลายของสหรัฐและพันธมิตร รัฐบาลเปียงยางถือเป็น “การประกาศสงคราม” อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน สหรัฐยังไม่เคยยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์ดังกล่าวของ น.ส.คิม โย-จอง ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งที่สอง ภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ต่อจากแถลงการณ์ที่เผยแพร่ เมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า ความถี่ของการที่รัฐบาลเปียงยางจะ “เปลี่ยนแปลงมหาสมุทรแปซิฟิกให้ลุกเป็นไฟ” นับจากนี้ “ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของสหรัฐ” ซึ่งหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า เป็นการส่งสัญญาณจากรัฐบาลเปียงยาง ว่าจะมีการยิงขีปนาวุธไปทางญี่ปุ่นมากขึ้นในอนาคต
ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ เผยแพร่แถลงการณ์อีกฉบับหนึ่ง ประณาม “ความก้าวร้าว” ของสหรัฐ ที่ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด “บี-52” เข้ามาในเขตคาบสมุทรเกาหลี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
อนึ่ง เกาหลีใต้และสหรัฐเตรียมซ้อมรบภายใต้ รหัสปฏิบัติการ “ฟรีด้อม ชิลด์” หรือ “เอฟเอส” ระหว่างวันที่ 13-23 มี.ค. เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการป้องกันและการตอบสนองทางทหาร ต่อการคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยจะเป็นการฝึกซ้อมภายใต้สถานการณ์จำลองจากระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้น ในระหว่างนี้ ยังจะมีการฝึกซ้อมรบขนาดใหญ่ที่ใช้รหัสปฏิบัติการ “วอร์ริเออร์ ชิลด์ เอฟทีเอ็กซ์”
สำหรับการซ้อมรบครั้งนี้จะเป็นการเตรียมความพร้อมทางทหาร ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ ประจำฤดูใบไม้ผลิ “ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด” นับตั้งแต่การซ้อมรบ “โฟลด์ อีเกิ้ล” เมื่อปี 2561.
เครดิตภาพ : REUTERS
