จากกรณี ค่ายหนังชื่อดัง บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ประกาศเลื่อนฉาย ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญเรื่อง ‘หุ่นพยนต์’ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากทาง คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ หรือที่รู้จักกันในนาม “กองเซ็นเซอร์” มีมติให้ภาพยนตร์ไทยเรื่อง “หุ่นพยนต์” เป็นหนังเรต ฉ 20- คือ ห้ามผู้ชมที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าชม และจะต้องมีการตรวจบัตรประชาชนที่หน้าโรงหนัง ดังนั้นทางค่ายจึงต้องการใช้เวลาในการกลับไปแก้ไขฉากต่าง ๆ ทำการเซ็นเซอร์ใหม่ เพื่อให้เรตของผู้เข้าชมหนังสามารถเข้าชมได้มากขึ้น ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานในโลกออนไลน์ ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง ในประเด็นการปรับแก้ไขหนังเรื่องนี้ รวมไปถึงความสงสัยในการทำงานของ “กองเซ็นเซอร์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพจเฟซบุ๊ก “ตุ๊ดส์review” ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้หลากหลายประเด็น ดังนี้

1) ล่าสุดผู้กำกับภาพยนต์เรื่อง ‘หุ่นพยนต์’ เผยภาพจากหนังที่ถูกกองเซ็นเซอร์ตัดออก ห้ามไม่ให้มี scene นี้ปรากฏในภาพยนตร์ ตามเนื้อหาของโพสต์จากผู้กำกับคือ พระกอดแม่ เพราะกลัวผีเข้าลูกสาว
2) ผู้ชมรอบสื่อทุกคน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ควรมีฉากใดเลยที่ตัดออก เพราะตัวละครได้นำเสนอเรื่องราว ที่มีการกระทำ และบทพูด อย่างเป็นเหตุเป็นผล ตามเส้นเรื่อง ที่ไม่ได้รู้สึกติดขัด หรือมีผลกระทบต่อพระศาสนา ตามที่ได้รับการตรวจสอบ
3) ปัจจุบัน หนังยังอยู่ใน status ขึ้นเรต ฉ20- ถูกสั่งตัดออก 5 ฉากในเส้นเรื่อง และมีผลทำให้เลื่อนฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อแก้ปัญหาในการเล่าเรื่องของภาพยนตร์ ได้แก่ ตัดฉากชื่อวัด, เณรชกต่อยกัน, เณรพูดคำหยาบคาย, เณรกอดผู้หญิง และ ท่องศีลข้อ 2 ขณะฆ่าคน ขโมยของ

4) จากภาพจะเห็นว่า ตัวละครพระ ไม่ได้โกนคิ้ว ก็เป็นหนึ่งในการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และไม่ใช่จริยวัตรจริงของพระสงฆ์ในบ้านเรา เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่กองเซ็นเซอร์ไทย ได้ทำงานตรวจสอบภาพยนตร์เรื่องนี้
5) การตรวจสอบ และคัดกรองสาระภาพยนตร์ในบ้านเรา อาจจะส่งผลให้คุณภาพหนังดีๆ ที่น่าดูต้องเป็นหมันไป เพราะเราให้คุณค่ากับการทำให้สาระปลอดภัยต่อสถาบันหลักของชาติ และประเด็นอ่อนไหวต่างๆ จนลืมไปว่า สื่อบันเทิง และสื่อสร้างสรรค์ต่างๆ ล้วนทำขึ้นเพื่อพัฒนาคนดู และสะท้อนภาพสังคมในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ ไม่ได้มีหน้าที่สะท้อนคุณธรรมอันสูงส่ง ตอบโจทย์การขัดเกลาคนในชาติแบบที่รัฐต้องการเท่านั้น
6) เป็นเรื่องน่าเศร้าที่วงการภาพยนตร์ไทย ได้ถูกแทรกแซงจากรัฐ และไม่สามารถปกป้องผลงานของตัวเองได้ เพียงเพราะแตะประเด็นสังคม หรือมีภาพและเนื้อหาบางอย่างที่ถูกตัดสินถูกผิดจากคนดูเพียงไม่กี่คนในคณะกรรมกองเซ็นเซอร์รู้สึกอ่อนไหว แต่กลับปิดกั้นไม่ให้คนดูเป็นล้าน…

ทั้งนี้ หลังจากมีการหยิบยกประเด็นต่างๆ มาเผยให้เห็นแล้ว ทำให้เหล่าชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นว่าผู้ชมสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกผิด อะไรคือบทบาทและการแสดงในหนัง อะไรคือเรื่องจริง มีหนังหลายเรื่องที่ใช้คำหยาบคาย พาดพิงบุคคลของรัฐ ก็ยังมีการปล่อยให้เด็กเยาวชนดูได้ จึงทำให้เกิดข้องสงสัยในการทำงานของคณะกรรมการว่า ได้ใช้อะไรเป็นตัววัดกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ คำตัดสินเช่นนั้น จะเป็นการตัดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพหนังหรือไม่.

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ตุ๊ดส์review