วันนี้ (15 มี.ค.) นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เปิดเผยภายหลังการประชุม บอร์ด กสทช. ว่า ที่ประชุม ได้ มีการพิจารณาเรื่องงบประมาณของกองทุนยูโซ่ จำนวน 3,580 ล้านบาท เพื่อทำโครงการ โทรเวชกรรม (เทเลเฮลธ์) หรือ การแพทย์ทางไกล ซึ่งเป็น 1 ใน 13 โครงการย่อยของ กองทุนยูโซ่ ที่มีคณะทำงานกับ 24 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แพทย์สภา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ กรมบัญชีกลาง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนสาธารณสุข มูลฐานของประเทศให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในระบบปฐมภูมิ ที่คนไทยจะมีแพทย์ส่วนตัว เพื่อปรึกษาเรื่องเจ็บป่วย ซึ่งวันนี้การพูดคุยของบอร์ดยาวกว่า 3 ชั่วโมง และยังไม่มีการลงมติ โดยได้เลื่อนลงมติเรื่องนี้เป็นวันที่ 29 มี.ค. นี้
“โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ กสทช.ชุดก่อน ไม่ใช่ในสมัยบอร์ดชุดนี้ ซึ่ง มีการจัดงบยูโซ่ 8,000 ล้าน และมีการตัดงบประมาณมาก่อนแล้ว 4,000 ล้าน เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ การที่มีการตรวจสอบ หรือตั้งข้อสงสัยถึงงบประมาณ อาจเพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ทาง สธ. ได้ทำหนังสือแจ้งกลับมาแล้วว่า ไม่ได้เป็นโครงการ ที่ซ้ำซ้อนกับโครงการอื่น ๆ ที่มองว่ามีการเร่งโครงการ เพราะล่าช้ามาเกือบปี และหากบอร์ด กสทช.ลงมติเห็นชอบแล้ว จะเริ่มทำใน 5 ภาค และ ใน รพ.สต. 1,1940 แห่ง ซึ่งหากคนไข้บัตรทอง 30 บาท ประกันสังคม และผู้ป่วยติดเตียงที่ขึ้นทะเบียน 5 แสนคน หากสามารถมาใช้ระบบ เทเลเฮลธ์ จำนวน 10% ก็ถือว่าโครงการมีความคุ้มค่า”
นายแพทย์สรณ กล่าวต่อว่า ในเรื่องเลือก เลขาธิการ กสทช. ที่มีข่าวความขัดแย้งของบอร์ดนั้น ได้นำหารือกับอนุกรรมการ ที่ปรึกษาแล้วยืนยันเป็นอำนาจและหน้าที่ของประธานฯ ในการเลือกรายชื่อเพื่อเสนอให้บอร์ดลงมติพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งได้ตัดสินใจแล้ว โดยจะประกาศเปิดรับสมัครเร็ว ๆ นี้ และตนเองจะสัมภาษณ์ จากนั้นจะเสนอชื่อให้บอร์ดเห็นชอบ และคาดว่าจะมีเลขาฯ กสทช. คนใหม่ ภายในเดือน เม.ย.นี้
“ยอมรับว่าการสรรหาเลขาฯ กสทช. มีความเห็นไม่ตรงกันของบอร์ด ซึ่งเรื่องที่ 3 บอร์ดไม่ยอมรับมติ ก็จะทำหนังสือชี้แจงไป ซึ่งตนเป็นประธาน กสทช. ต้องดูแลภาพรวมทั้งหมด จึงต้องการคนที่สามารถทำงานด้วยกันได้ รู้ใจและซื่อสัตย์ เพศชายหรือหญิงก็ได้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่ได้กินเองชงเอง ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เป็นการทำตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด”