สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงพื้นที่เมืองมาริอูโปล ในภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่กองทัพรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ที่ปูตินเดินทางเข้าใกล้แนวรบหน้าด้วยตัวเอง


ทั้งนี้ เมืองมาริอูโปล ซึ่งมีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการต่อเรือของยูเครน เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่สุด ที่ตั้งอยู่ริมทะเลอาซอฟ เพื่อออกสู่ทะเลดำเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของภเขตโดเนตสก์ และประชากรส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย อยู่ในสภาพ “พังพินาศ” ตั้งแต่ช่วงต้นของการสู้รบในยูเครน ที่กองทัพรัสเซียและกองกำลังสนับสนุนเข้าควบคุมพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่เดือนเม.ย. ปีที่แล้ว


ขณะที่ นายมิไคโล โพโดลยัก หนึ่งในที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปรียบเทียบการลงพื้นที่เมืองมาริอูโปลของปูติน ว่า “อาชญากรกลับมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ”


อนึ่ง ก่อนเดินทางเยือนเมืองมาริอูโปล ปูตินลงพื้นที่เมืองเซวาสโตโพล บนคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครน เนื่องในโอกาสครบรอบ 9 ปี การผนวกรวมคาบสมุทรไครเมียกลับคืนเป็นส่วนหนึ่ง เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2557 ซึ่งผู้นำรัสเซียเยี่ยมชมโรงเรียนศิลปะ และศูนย์รับพัฒนาเด็กเล็กประจำเมืองเซวาสโตโพล


ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่า “แม้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย” ที่ปูตินเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง เรื่องนี้น่าจะสื่อนัยถึงการที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี ) ออกหมายจับผู้นำรัสเซีย เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ฐานเป็นอาชญากรสงคราม ในข้อหา “ลักพาตัวเด็กในยูเครน” และ “ความล้มเหลวในการใช้อำนาจจัดการกับพลเรือนและทหารซึ่งเกี่ยวข้อง” ด้านรัฐบาลมอสโกกล่าวถึงหมายจับของไอซีซีว่า “แค่เศษกระดาษ”.

เครดิตภาพ : REUTERS