เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งในคดีที่ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน (จำเลยที่ 1) ได้ยื่นคำร้องวันที่ 25 ส.ค.64 ขอให้ศาลมีคำสั่งส่งตัวนายพริษฐ์ ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ โดยอ้างเหตุที่นายพริษฐ์ติดโควิดโดยที่อาการยังไม่ดีถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ซึ่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ นายพริษฐ์มีประวัติการรักษาจากโรคหอบหืด

หากพิจารณาตามหลักสิทธิมนุษยชนกติการะหว่างประเทศฯ และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องขอเรียนต่อศาลว่าจำเลยที่ 1 ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์จึงควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้ารับการรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยในสถานพยาบบาลที่เหมาะสมเพื่อรักษาชีวิตของจำเลยไว้ข้อด้วยเหตุผลตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังที่เรียนต่อศาลข้างต้นผู้ร้องขอศาลได้โปรดมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 84/1ให้ย้ายจำเลยที่ 1 ไปควบคุมตัวเพื่อรับการรักษาพยาบาลโรคโควิดโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นการชั่วคราวจนกว่าจำเลยที่ 1 จะได้รับการรักษาจนหายขาดจากโรคดังกล่าวเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมขอศาลได้โปรดอนุญาต

ต่อมาศาลอาญามีคำสั่งว่าให้มีหนังสือสอบถามทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่าจากการติดเชื้อไวรัสโควิดของ จำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยอยู่ในสภาพใด และโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 1 ได้หรือไม่ แล้วรายงานให้ศาลทราบ ให้ผู้ร้องทราบคำสั่ง

ต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจากหนังสือรายงานผลการตรวจรักษา และใบความเห็นของแพทย์ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 1 จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่าปัจจุบันมีอาการน้อย ไม่มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ไม่มีไข้ หายใจได้ปกติ และได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด ประกอบกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากร ด้านยา และเวชภัณฑ์ ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และหากผู้ต้องขังรายใด เมื่อได้รับการรักษาพยาบาลแล้วอาการไม่ทุเลาดีขึ้นก็มีพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคสอง ให้อำนาจผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้นำตัวส่งไปรักษาที่สถานพยาบาลนอกเรือนจำได้ ดังนั้นด้วยเหตุผลตามข้อเท็จจริงดังกล่าวมาแล้วข้างต้น จึงไม่อนุญาตตามที่ผู้ร้องขอมาให้ยกคำร้อง และแจ้งคำสั่งให้ทราบ.