สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ เรียกร้องรัฐบาลปักกิ่ง “หยุดกิจกรรมคุกคามและการดำเนินการที่ไม่ปลอดภัย” ในทะเลจีนใต้ พร้อมทั้งเตือนอย่างมีนัยว่า หากใช้กำลังทหารในรูปแบบใดก็ตามของจีนต่อฟิลิปปินส์ ในทะเลพิพาทแห่งดังกล่าว อาจกระตุ้นให้รัฐบาลวอชิงตันใช้มาตรการตอบโต้เช่นกัน
ทั้งนี้ สำนักงานยามฝั่งของฟิลิปปินส์รายงานว่า ภารกิจลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 18-24 เม.ย. ที่ผ่านมา มีการพบกองเรือประมงจีนมากกว่า 100 ลำ เรือคอร์เวตของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ( พีแอลเอ ) และเรือลาดตระเวนของพีแอลเออีก 2 ลำ ลอยลำอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
The United States stands with our Philippine #FriendsPartnersAllies in the face of the People’s Republic of China Coast Guard’s continued infringement upon freedom of navigation in the South China Sea.
— U.S. Embassy in the Philippines (@USEmbassyPH) April 30, 2023
Read the statement by @StateDeptSpox: https://t.co/K2QjEPHGSd pic.twitter.com/M4kFZsVMSr
อย่างไรก็ตาม เรือลำหนึ่งของจีน “หักเลี้ยวอย่างอันตราย” โดยอยู่ห่างจากเรือลำหนึ่งของฟิลิปปินส์เพียง 150 ฟุตเท่านั้น ขณะที่เรืออีกสองลำของจีน “ใช้กลยุทธ์ก้าวร้าว” ซึ่งถือเป็น “การข่มขู่คุกคามอย่างมีนัยสำคัญ ต่อความปลอดภัยของเรือและลูกเรือชาวฟิลิปปินส์” หลังเกิดเหตุ กระทรวงการต่างประเทศจีนและฟิลิปปินส์สาดโคลนใส่กัน ว่าอีกฝ่าย “ละเมิดน่านน้ำ”
More China-Philippines tension in the South China Sea. pic.twitter.com/Linn4supWj
— South China Morning Post (@SCMPNews) April 28, 2023
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์กล่าวหา เรือตรวจการณ์ของจีน ใช้อุปกรณ์ปล่อยเลเซอร์ “ระดับที่ใช้ในกิจกรรมทางทหาร” พุ่งตรงอย่างน้อย 2 ครั้ง มายังเรือลาดตระเวนของรัฐบาลมะนิลา ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจบริเวณแนวสันดอนโธมัสที่สอง ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP