สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่า ในคลิปวิดีโอ “I crashed my airplane” ซึ่งมีผู้เข้าชมเกือบ 3 ล้านคน ดูเหมือนว่านายเทรเวอร์ เจค็อบ จะประสบปัญหาด้านเครื่องยนต์ ขณะที่เขาบินเหนือภูมิภาคทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือน พ.ย. 2564

เจค็อบ วัย 29 ปี ดีดตัวออกจากเครื่องบินเครื่องยนต์เดี่ยว พร้อมถือไม้เซลฟี่ และกระโดดร่มลงไปในป่าสงวนแห่งชาติ ลอสปาเดรส จากนั้นเขาจึงถ่ายทำตัวเองที่กำลังเดินป่า จนพบกับซากเครื่องบินในที่สุด โดยกล้องที่ติดตั้งอยู่ทั่วเครื่องบินเผยให้เห็นว่า มันสูญเสียการควบคุม และตกลงในพื้นที่ป่าสงวน

TrevorJacob

ในช่วงหลายสัปดาห์หลังเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี) และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (เอฟเอเอ) ดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุของการตก และสั่งให้เจค็อบเก็บรักษาซากเครื่องบินเอาไว้

ทว่าเจค็อบกลับโกหกเจ้าหน้าที่ว่า เขาไม่รู้ตำแหน่งที่เครื่องบินตก ทั้งที่ในความเป็นจริง เจค็อบและเพื่อนของเขากู้ซากเครื่องบินออกจากป่าด้วยเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่จะแยกส่วนเป็นชิ้นเล็ก ๆ และนำไปทิ้งในถังขยะรอบสนามบินเมืองลอมพอก ในอีกไม่กี่วันต่อมา

เอฟเอเอเพิกถอนใบอนุญาตนักบินของเจค็อบ เมื่อเดือน เม.ย. 2565 ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า เจค็อบยอมรับสารภาพว่า จงใจขัดขวางและโกหกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง ตลอดจนผู้ตรวจสอบความปลอดภัยด้านการบินของเอฟเอเอ ซึ่งข้อหาทำลายและซ่อนเร้นหลักฐาน โดยมีเจตนาเพื่อขัดขวางการสอบสวนของรัฐบาลกลาง ถือเป็นอาชญากรรม ซึ่งมีโทษจำคุกนานสูงสุด 20 ปี

ทั้งนี้ นักบินและผู้เชี่ยวชาญด้านการบินหลายคน แสดงความคิดเห็นว่า เจค็อบไม่สามารถทำตามขั้นตอนพื้นฐาน เมื่อเครื่องยนต์ของเครื่องบินเกิดปัญหา อีกทั้งเขาควรที่จะนำเครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัย และการสวมร่มชูชีพขณะขับเครื่องบินขนาดเล็ก เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก.

เครดิตภาพ : Trevor Jacob Youtube Channel