เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เดินทางมายัง อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เพื่อขอหารือกับคนในพรรค โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาที่พรรคก้าวไกล เพื่อขอให้พรรคพิจารณาถอดถอน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พร้อมระบุว่า การที่นายสันธนะแจ้งว่า จะเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพรรค เป็นการกล่าวอ้างเพื่อหากิน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเดินทางมาตักเตือน พร้อมยืนยัน ที่มาวันนี้ ทางผู้ใหญ่ของพรรคได้เชิญมาด้วย ไม่ได้มาเอง 

“จมูกผมไว เรื่องผีเน่าทำตัวสยอง มันต้องเจอกับผม ไม่งั้นคนพวกนี้จะเที่ยวแอบอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลไปหากิน จะเสียชื่อพรรค ซึ่งก้าวไกลเป็นพรรครุ่นใหม่ ผิดหวังไม่ได้ครับ จะเอาตำรวจถูกไล่ออกราชการมาเป็นสมาชิกไม่ได้ ต้องรีบหารือ” นายชูวิทย์กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้พรรคก้าวไกลเหมือนดาวจรัสแสง แต่ถ้ามีดาวดับอย่างนายสันธนะ เข้าร่วมพรรค ทำไม่ได้ จึงจำเป็นต้องรีบมาเตือนให้พิจารณาด้วยความหวังดี ไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์หรือตำแหน่ง การที่พรรคได้คะแนนนำมาเป็นลำดับที่ 1 ก็ขอแสดงความยินดีด้วย 

นอกจากนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ ตนจะเดินทางไปพบกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ในงานกิจกรรมขอบคุณประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเ้สย เพื่อที่จะตักเตือนนายพิธาว่า อย่ารับพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล และให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเคยรับปากกับตนต่อหน้าสื่อมวลชนว่า จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรีสุดโต่ง และจะสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น

โดยช่วงที่นายชูวิทย์เดินทางมาถึง นายสันธนะออกจากที่ทำการพรรคแล้ว ทำให้ไม่ได้เจอกัน ในส่วนของแกนนำพรรคก้าวไกล ได้มี นายรังสิมันต์ โรม ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เข้ามารับฟังข้อร้องเรียนจากนายชูวิทย์ โดยนายรังสิมันต์ ตอบว่า จะรับเรื่องทั้งสองกรณีนี้ไปหารือกับพรรค เพราะส่วนตัวไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจตรงนี้

อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ ได้ให้เครื่องรางเป็นผ้ายันต์ให้กับ รังสิมันต์ โรม 2 ผืน โดยอดีตนักการเมืองชื่อดังบอกว่า เอาไว้ใช้ป้องกันสัมภเวสี หวังเกาะกระแสพรรคอันดับ 1 หากิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น เวลา 15.15 น. นายสันธนะทราบข่าวว่านายชูวิทย์มาดักพบ จึงเดินทางกลับมายังที่ทำการพรรค โดยได้พบกับนายชูวิทย์ ช่วงหนึ่ง นายชูวิทย์จะปรี่เข้ามาหานายสันธนะ จนตำรวจที่สแตนด์บายไว้ต้องเข้ามาห้าม พร้อมตะโกนผ่านโทรโข่งว่า ไปหากินกับพรรคนู้นพรรคนี้ พรรคก้าวไกล ไอ้ควาย อย่าให้เผลอก็แล้วกัน ทำให้นายสันธนะโต้เถียงกลับว่า ปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามามีบทบาทในพรรคไม่ได้ โดยทั้งคู่ยั่วยุและเถียงกันเป็นเวลา 10 นาที โดยมีนายรังสิมันต์ ยกมือไหว้ขอร้องให้พอได้แล้ว ขอให้ใจเย็นๆ ทำให้นายสันธนะ ได้ขึ้นรถกลับ แต่มีแก้วกาแฟถูกเขวี้ยงใส่รถนายสันธนะ แตกกระจาย ซึ่งนายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เขวี้ยง จากนั้นทั้งคู่ได้แยกย้ายกันกลับไป.