สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวาติกันซิตี นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า สมเด็จกระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทรงมีพระดำรัสในช่วงหนึ่งของการประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า พระองค์ทรงขอให้ “กลุ่มผู้มีอำนาจจัดการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เปิดทางให้แก่ผู้ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยสนับสนุนดังกล่าว” ในพื้นที่ประสบภัยจากไซโคลนโมคา


ทั้งนี้ โป๊ปฟรานซิสทรงไม่ได้พาดพิงประเทศหนึ่งประเทศใดอย่างเจาะจง อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า พายุลูกดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่พื้นที่บางส่วนทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ และที่รัฐยะไข่ของเมียนมา ในเดือนนี้

หญิงสาวคนหนึ่งอาศัยอยู่ภายในที่พักชั่วคราว สำหรับผู้ประสบภัยจากไซโคลนโมคา ที่เมืองซิตตเว ในรัฐยะไข่ของเมียนมา


อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และหน่วยงานอีกหลายแห่งประเมินไปในทางเดียวกัน ว่าเมียนมาได้รับความเสียหายมากกว่า โดยรัฐบาลทหารเมียนมาของพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ประกาศให้รัฐยะไข่ “เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ” กระนั้น ทางการเมียนมายังคงยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตไว้ที่อย่างน้อย 145 ราย


อนึ่ง ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลทหารเมียนมาจะยอมรับความช่วยเหลือจากนานาชาติมากน้อยเพียงใด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 เมียนมาเผชิญกับอิทธิพลรุนแรงของไซโคลน “นาร์กิส” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 130,000 ราย และความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง กดดันรัฐบาลทหารเมียนมา ให้ต้องประกาศขอรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากประชาคมโลก.

เครดิตภาพ : AFP