น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า การสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานแพทย์พยาบาลฉุกเฉินต่างๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยภายใน 8 นาที หลังที่ผ่านมาพบสภาพเมืองหนาแน่นไม่เอื้อต่อการเข้าถึงผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน จึงแก้ปัญหาโดยเพิ่มรถมอเตอร์แลนซ์ หรือรถฉุกเฉินไม่ลำเลียง ลักษณะเป็นรถจักรยานยนต์ (จยย.) บนรถจะมีอุปกรณ์การแพทย์เบื้องต้น และมีเจ้าหน้าที่ประจำ 2 คน ที่หลังรับการประสานจะเข้าไปช่วยเหลือได้ทันที ขณะที่รถพยาบาล หรือรถฉุกเฉินลำเลียง ก็จะได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติหน้าที่ควบคู่กัน ทำให้สามารถมีหน่วยกู้ชีพที่เข้าถึงผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ลดการสูญเสียได้
“จากการนำร่องโครงการราชพิพัฒน์โมเดล พบมอเตอร์แลนซ์ เข้าถึงผู้ป่วยเฉลี่ย 4 นาที ช้าสุด 7 นาที เร็วสุด 3 นาที ขณะที่รถพยาบาลส่วนใหญ่เฉลี่ย 13 นาที จึงมีแผนขยายไปประจำทั้ง 50 เขต”
สำหรับมอเตอร์แลนซ์ ถูกออกแบบเพื่อเข้าช่วยผู้ป่วยรวดเร็ว รถ 1 คันมีเจ้าหน้าที่ 2คน คือ เจ้าหน้าที่ EMT เป็นผู้ขับขี่ มีกล้องวิดีโอขนาดเล็กติดตัว เพื่อใช้ประสานกับแพทย์ และ Paramedic ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินระดับสูงสุด โดยจะเป็นผู้ประเมินอาการและแจ้งไปยังแพทย์ที่ดูผ่านกล้องวิดีโอขนาดเล็กก่อนนำส่งต่อมายัง รพ. โดยรถพยาบาลอีกครั้ง
ทั้งนี้ กรณีส่งต่อ รพ.จะทำให้การรักษาต่อเนื่อง เพราะแพทย์ทราบอาการตั้งแต่แรก เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉิน ไม่ต้องประเมินอาการซ้ำ ลดเวลาวินิจฉัยและทำการรักษาได้ต่อเนื่องทันที โดยมอเตอร์แลนซ์แต่ละพื้นที่จะถูกกำกับการออกหน่วยโดยหน่วยฉุกเฉิน 1669 และอยู่ระหว่างเพิ่มช่องทางการรับเหตุผ่านระบบแอปพลิเคชันของ รพ.ต่างๆ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ทับซ้อนงานอาสากู้ชีพ โดยจะเริ่มเห็นผลภายในเดือน มิ.ย.นี้.