สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเดนปาซาร์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า นายวายัน คอสเตอร์ ผู้ว่าการจังหวัดบาหลี กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งประพฤติตัวไม่เหมาะสม, ทำกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตในวีซ่า, ใช้คริปโตเพื่อชำระเงิน และฝ่าฝืนข้อกำหนดอื่น ๆ จะต้องรับโทษหนักตามกฎหมาย
“การดำเนินการที่เข้มงวด มีตั้งแต่การไล่ออกนอกประเทศ, การลงโทษทางปกครอง, โทษทางอาญา, การปิดสถานประกอบการ และบทลงโทษรุนแรงอื่น ๆ” คอสเตอร์ กล่าวเพิ่มเติม พร้อมกับย้ำว่า ห้ามมีการใช้สกุลเงินอื่น ที่ไม่ใช่สกุลเงินรูเปียห์ สำหรับการชำระเงินในอินโดนีเซีย
The Bali administration has warned foreign tourists visiting the popular resort island against making cryptocurrency payments, with the governor, I Wayan Koster, saying the practice is illegal in Indonesia and violators can face one year in prison or … https://t.co/6j3uRUH60J
— The Jakarta Post (@jakpost) May 29, 2023
อนึ่ง ตามกฎหมายของอินโดนีเซีย ผู้ใดก็ตามที่ใช้สกุลเงินอื่น นอกเหนือจากสกุลเงินรูเปียห์ อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับสูงสุด 200 ล้านรูเปียห์ (ราว 464,000 บาท)
“ผู้ที่ดำเนินกิจกรรมธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางอินโดนีเซีย (บีไอ) อาจได้รับโทษจำคุก 1-5 ปี และถูกปรับตั้งแต่ 50-22,000 ล้านรูเปียห์ (ราว 116,000 บาท-51 ล้านบาท)” คอสเตอร์ ระบุ “นอกจากนี้ การฝ่าฝืนข้อกำหนดใด ๆ จะมีโทษทางปกครอง ในรูปแบบของการว่ากล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร, ภาระผูกพันในการชำระค่าปรับ และการห้ามไม่ให้ทำธุรกรรมการชำระเงิน”
ขณะที่ นายทริสโน นูโกรโฮ ผู้อำนวยการธนาคารกลางอินโดนีเซีย สาขาจังหวัดบาหลี กล่าวว่า แม้สกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งที่ได้รับอนุญาตในอินโดนีเซีย “ในฐานะสินทรัพย์” แต่มันถูกห้ามนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการชำระเงิน.
เครดิตภาพ : AFP