จากคำขึ้นต้น หญ้าทนร่ม ก็พอจะนึกออกได้ง่าย ว่าเป็นหญ้าชนิดไหน มันคือ หญ้ามาเลเซีย ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ ใช้โดยทั่วไป ทั้งในจัดสวนในบ้าน สวนสาธารณะ สถานที่ราชการ มีความเข้าใจกันอย่างแพร่หลายว่า หญ้ามาเลเซียชอบอยู่ในที่ร่ม หรือ เจริญเติบโตได้ดีในที่ ที่มีแสงน้อย แต่ในทางกลับกัน หญ้ามาเลเซียถูกเลี้ยงมาด้วยแดดจัด ตลอดเวลา ในไร่หญ้าจากผู้ผลิตตั้งแต่ต้นทาง แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของหญ้ามาเลเซีย สามารถเติบโตในที่ ที่มีแสงน้อยลงได้ คงไม่แปลกที่จะตีความหมายว่า ไม่ได้ชอบร่ม แต่ ทนร่ม

ลักษณะของ หญ้ามาเลเซีย

ลำต้น มีลักษณะแบน ลำต้นบนดินจะแตกออกทั้ง 2 ข้างของลำต้น รากจะแตกออกจากข้อของลำต้นบนดิน เรียกว่า ไหล เมื่อไหล สัมผัสกับดิน รากและลำต้นใหม่ก็จะแตกออกจากข้อของไหล แล้วเจริญเติบโตแพร่กระจายไป

ใบ มีลักษณะกว้าง มีสีเขียวเข้ม กว่าหญ้าชนิดอื่น  ขอบใบมีขน  ใบแก่จะเห็นได้ชัดเจน กว่าใบอ่อน

ดอก มีลักษณะเป็นดอกเชิงลด มีก้านสั้น สีขาวอมเขียว หรือ สีม่วง

ข้อดี ของหญ้ามาเลเซีย

  1. สามารถปลูกได้ทั้งแดดจัด  และ ในที่ร่มรำไร
  2. ในสีเขียวเข้ม มากว่าหญ้า ชนิดอื่น
  3. ดูแลรักษาง่าย

ข้อเสีย ของหญ้ามาเลเซีย

  1. ไม่ทนต่อการเหยียบ มีลักษณะฟื้นตัวได้ช้า
  2. ต้องการน้ำเยอะ เนื่องจากใบมีขนาดกว้าง มีการคายน้ำเยอะกว่าหญ้าชนิดอื่น
  3. ถ้าปลูกรวมกับหญ้าชนิดอื่น จะลามทับหญ้าชนิดอื่น ทำให้หญ้าชนิดอื่นตายได้
  4. ต้องได้รับการตัด สม่ำเสมอ มิฉะนั้นจะหญ้ายาว สนามจะดูรก

การปลูกเลี้ยง

ต้องใช้น้ำปริมาณมาก และ สม่ำเสมอ ถ้าน้ำน้อยไป ใบ ก้านจะออกสีแดงแห้ง ดูไม่สวย

ถ้าได้ปริมาณน้ำที่เหมาะสม จะเจริญเติบโตเร็ว เนื่องจาก หญ้ามาเลเซีย ลำต้นเป็น ไหล ถ้ายิ่งตัดบ่อย ทุก 10 วัน หญ้าจะแน่นใบไม่ยาวมาก จะได้สนามหญ้าที่ดูเป็นระเบียบใบละเอียด เนื่องจากตัดบ่อย

ในทางกลับกัน ถ้าตัดทุก 15 วัน จะได้ใบ ที่ยาว สีเขียวเข้ม มากกว่าการตัดทุก 10 วัน

มุมมองนำไปใช้งาน ด้านการจัดสวน

ด้วยลักษณะเฉพาะตัวของ หญ้ามาเลเซีย ที่ ทนร่ม และลักษณะของสี และใบ เหมาะกับสวนในรูปแบบ สวนป่า สวนบาหลี สวนธรรมชาติ สวนที่มีพืชพันธุ์ต้นไม้เขตร้อนประกอบอยู่ในสวน ในความเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าจะใช้ในสวนที่ต้องการความเป็นระเบียบ มีเส้นสาย เช่น สวนรูปแบบ โมเดล สามารถใช้ได้เช่นกัน แค่ ตัดหญ้าบ่อยขึ้น

………………………………….
คอลัมน์ “มหัศจรรย์พันธุ์ไม้”
เขียนโดย ‘เอกลักษณ์ ถนัดสวน