เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่รัฐคะยา ประเทศเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดกับ จ.แม่ฮ่องสอน ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยสงครามหนีเข้ามาพึ่งพิงไทย ว่า ได้รับรายงานมีผู้อพยพเข้ามาในพื้นที่บ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ช่วง 2 วันที่ผ่านมามากถึง 1,278 คน ส่วนอีกจุดคือในพื้นที่บ้านพะเข่ ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม 129 คน รวมยอดทั้งสองพื้นที่ทั้งสิ้น 1,407 คน

ซึ่งทางหน่วยราชการได้ให้การช่วยเหลือตามมนุษยธรรม ซึ่งเมื่อสถานการณ์สงบลง คงจะมีการส่งผู้อพยพกลับภูมิลำเนา แต่หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ทางจังหวัดได้เตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว ซึ่งจะไม่กระทบความเป็นอยู่ของคนไทยแน่นอน นอกจากนี้ตนยังได้สั่งการไปยังนายอำเภอในแต่ละพื้นที่ให้ดูแลความปลอดภัยทุกจุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อราษฎรไทย

นายเชษฐา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ควรจะหลีกเลี่ยงและไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ฝ่ายความมั่นคงเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย สำหรับสาเหตุเกิดจากกองกำลังคะเรนนี ได้ทำการโจมตีและพยายามเข้ายึดพื้นที่ในเขต อ.แม่แจ๊ะ ประเทศเมียนมา ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ค่ายมูติน, ค่ายโอกิ และค่ายทหาร สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 430 ตรงข้ามช่องทางบ้านเสาหินของไทย

ก่อนหน้านั้นทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ได้ทำการยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา อีก 3 แห่ง ในพื้นที่ตรงข้ามช่องทาง BP 11 ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง และ BP 12 ตรงข้ามช่องทางบ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน.