เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงพ่อพระเทพปัญญาสุธี “เจ้าคุณพร้อม” อายุ 92 ปี พรรษา 72 อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้งวรวิหาร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 16 อดีตที่ปรึกษาอธิการบดี มจร วิทยาเขตนครศรีธรรมราช อดีตผู้รับใบอนุญาต โรงเรียนสามัญศึกษาวัดแจ้ง ป.ธ.8 สำนักวัดประยุรวงศาวาส 2497, ผจล.วัดประยุรฯ 2502, พธ.บ.รุ่น 6/2504, จร.วัดแจ้ง 2510 (จล.2529), รองอธิการบดี มจร วข.นครศรีธรรมราช (รูปแรก) 2528 ถึงแก่มรณภาพละสังขารเมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลา 17.13 น. ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ณ โรงพยาบาลนครินทร์ นครศรีธรรมราช ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจแก่บรรดาศิษยานุศิษย์จำนวนมาก

หลังจากมรณภาพละสังขารด้วยโรคชรา ที่ รพ.นครินทร์ ทางคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้อัญเชิญสรีระสังขารของท่านไปเก็บไว้ที่ รพ.ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อจัดเตรียมสถานที่ในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดแจ้งวรวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งกำหนดบำเพ็ญกุศลศพและพระราชทานเพลิงศพ พระเทพปัญญาสุธี (พร้อม โกวิโท) วันที่ 22 มิ.ย. 2566 จะอัญเชิญสรีระสังขารจาก รพ.ค่ายวชิราวุธ มายังวัดแจ้งวรวิหาร ทำพิธีสรงน้ำศพ และบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารต่อเนื่องระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย. 2566 โดยสวดพระอภิธรรมและแสดงพระธรรมเทศนาทุกคืน กำหนดพระราชทานเพลิงศพวันที่ 1 ก.ค. 2566 ณ วัดแจ้งวรวิหาร ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ดร.นายไพรัตน์ ฉิมหาด ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป วิทยาเขตนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า พระเทพปัญญาสุธี (พร้อม โกวิโท) นับเป็นพระมีอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกศึกษาและวางรากฐานทางด้านการศึกษาของจังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ โดยเฉพาะการศึกษาของพระภิกษุ-สามเณรและฆราวาส ซึ่งพระเทพปัญญาสุธี (พร้อม โกวิโท) เป็นพระสังฆาธิการรุ่นแรก ที่เรียนจบในระดับปริญญาโท ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งในและต่างประเทศ โดยเมื่อ พ.ศ. 2510 จบ Master of Arts Program in Religions and Philosophy (M.A.) ประเทศอินเดีย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีลูกศิษย์ทั่วประเทศจำนวนมาก ซึ่งท่านมีสโลแกนเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียนว่า “เรียนให้มีความรู้ดี เรียนให้มีความฉลาด เรียนให้มีความสามารถ และเรียนให้ประพฤติปฏิบัติดี”

พระเทพปัญญาสุธี นามเดิมว่า “พร้อม แก้วทอง” เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 ที่บ้านแคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อ เสิน มารดาชื่อ เสน ท่านเกิดในครอบครัวยากจนในถิ่นทุรกันดาร เมื่ออายุย่าง 16 ปี ได้บรรพชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 พระครูสุจิตรวรสาร เจ้าคณะตำบลบ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาในวัดเขมาราม (ควนยาว) สมัยนั้นพระครูสุวรรณธรรมรังสี อดีตเจ้าคณะอำเภอชะอวด เป็นเจ้าอาวาส

ขณะที่เป็นสามเณร สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และเป็นพระอาจารย์สอนประจำสำนักนักเรียนวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงอุปสมบท โดยกลับจากพัทลุงไปอุปสมบท ณ วัดควนยาว วัดเดิมที่ได้บรรพชา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 พระเดชพระคุณพระศรีธรรมราชมุนี (หมุ่น อิสฺสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดหน้าพระบรมธาตุ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาผล จนฺทโชโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีฉายาว่า “โกวิโท”

ส่วนลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. 2489 เป็นเปรียญธรรม 8 ประโยค พ.ศ. 2515 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระศรีธีรพงศ์ พ.ศ. 2524 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวิสุทธิมุนี ตรีปิฎกวิภูษิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ. 2533 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพปัญญาสุธี ศรีธรรมานุนายก ตรีปิฎกวิภูษิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี