จากกรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จับกุมรถบรรทุกทุเรียนกว่า 8 ตัน บริเวณถนน 317 (สระแก้ว-จันทบุรี) ช่วงบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลวังสมบูรณ์ ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว โดยในรถบรรทุก 6 ล้อ ตรวจพบทุเรียนสด โดยระบุว่า มีถิ่นกำเนิดในต่างประเทศ และไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงการผ่านพิธีการศุลกากร จึงตรวจยึดทุเรียน 8,420 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1,178,800 บาท พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและยานพาหนะ ส่งด่านศุลกากรอรัญประเทศ ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนั้นมีการนำทุเรียนไปจำหน่ายจ่ายแจกให้กับหน่วยงานราชการต่าง ๆ หน่วยละ 50 ลูก ในราคา 7,500 บาท จนเกือบหมด กระทั่งเจ้าของล้ง ออกมาร้องเรียน และทางกรมศุลฯ ออกมาชี้แจง ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

‘เจ้าของล้งทุเรียน’ เดือดแจ้งเอาผิดจนท.ศุลกากร มั่วขายทุเรียนของกลางกว่า 8 ตั

ล่าสุด นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมทีละประเด็นว่า กรณีที่ระบุข้อมูลเส้นทางรถบรรทุกไม่ใช่เรื่องจริง เพราะรถบรรทุกไม่ได้ติดจีพีเอสนั้น ขอชี้แจงว่า ข้อมูลที่กรมฯ ได้มาเป็นระบบ ไลน์เซนซ์ เพจ ซึ่งเป็นระบบตรวจจับข้อมูลจากทะเบียนรถ โดยข้อมูลนี้ได้มาจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถใช้ระบุเส้นทางการเดินรถของรถบรรทุกได้เช่นกัน

ส่วนที่ระบุว่ามีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาและเปลี่ยนสำนวน ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ในช่วงแรกได้มีบุคคลหนึ่งได้แจ้งว่าเป็นเจ้าของทุเรียน กรมฯ จึงได้ทำเอกสารหลักฐาน แต่ยังไม่มีการเซ็นรับรองหรือเซ็นพยาน ซึ่งตามระเบียบเอกสารนั้นถือว่ายังไม่สมบูรณ์ และไม่มีผลทางกฎหมาย แต่ต่อมามีอีกบุคคลหนึ่งได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของทุเรียน กรมฯ จึงได้มีการทำเอกสารหลักฐานใหม่และมีการลงนามอย่างถูกต้อง และต่อไปหากมีคนเข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าของเพิ่ม ก็จะมีการเพิ่มเข้าไปสำนวนได้อีก

สำหรับกรณีระบุมีการบังคับขู่เข็ญให้ยอมรับสารภาพนั้น เรื่องนี้หากมีข้อมูลเพิ่มเติม กรมฯ ก็พร้อมรับฟัง และขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดี ซึ่งถ้าผลออกมามีคนของกรมฯ เข้าไปมีส่วนกระทำผิด ก็จะดำเนินการลงโทษตามระเบียบอย่างเด็ดขาดเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ขณะที่เรื่องการปันส่วนขายทุเรียนให้กับหน่วยงานราชการนั้นยืนยันว่า ได้ทำตามระเบียบขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนและเงินที่ได้จากการปันส่วน ก็มีการนำส่งเข้าแผ่นดินทุกบาท ไม่มีการรั่วไหลตกหล่น