เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุว่า “ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 69 ปี แข็งแรงดี ไม่มีอาการผิดปกติ ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีโรคประจำตัว เอกซเรย์ปอดประจำปีพบก้อนในปอดข้างขวาด้านบนขนาด 2.2 × 2.7 × 2.5 เซนติเมตร (ดูรูป) ทำคอมพิวเตอร์ปอดพบต่อมน้ำเหลืองในช่องตรงกลางในทรวงอกโต ทำ PET scan ยืนยันก้อนในปอดและต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องตรงกลางในทรวงอก เจาะก้อนในปอดข้างขวา พบมะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma ส่งตรวจการกลายพันธุ์ของยีนพบ EGFR exon 20 insertion mutation

สรุป: เป็นมะเร็งปอดระยะแพร่กระจายแล้ว ผ่าตัดไม่ได้ เนื่องจากเวลานั้นยังไม่มียามุ่งเป้าที่ใช้กับยีนกลายพันธุ์ชนิดนี้ จึงได้เริ่มยาเคมีบำบัดตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2565 โดยให้ยาเคมีบำบัด ALIMTA และ Carboplatin ทั้งหมด 8 ครั้ง ก้อนในปอดเดือนตุลาคม 2565 ขนาดเล็กลง (ดูรูป) ต่อมาเดือนมกราคม 2566 กลับโตขึ้นอีก (ดูรูป) เนื่องจากยาเคมีบำบัดใช้ไม่ได้ผลแล้ว ให้คนไข้เข้าโครงการช่วยเหลือให้เข้าถึงยารักษาโรคมะเร็งตัวใหม่ Mobocertinib (Exkivity) ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ขนาด 40 มก. กิน 4 เม็ดวันละครั้งทุกวัน เริ่มเดือนเมษายน 2566 ระยะแรกมีผลข้างเคียงเล็กน้อย มีผื่นและแผลในปาก หลังปรับยาเหลือ 3 เม็ดวันละครั้ง ผลข้างเคียงลดลง เดือนมิถุนายน 2566 หลังกินยา 2 เดือน ผู้ป่วยตอบสนองต่อยาตัวใหม่นี้ดีมาก เอกซเรย์พบก้อนในปอดขนาดเล็กลงมาก (ดูรูป) ต้องติดตามต่อไปว่า ยาตัวใหม่นี้จะใช้ได้ผลนานแค่ไหน

Mobocertinib เป็นยาชนิดกินตัวแรกของโลก ที่มีเป้าหมายการออกฤทธิ์ต่อยีน EGFR ที่เกิด exon 20 insertion mutation ได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และจีน สำหรับใช้รักษามะเร็งปอดชนิด non small cell lung cancer ชนิดที่พบ EGFR exon 20 insertion mutation ซึ่งโรคอยู่ในระยะลุกลามเฉพาะที่หรือระยะแพร่กระจาย หลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดสูตรที่มีแพลทินัมแล้วไม่ได้ผล ยาตัวนี้กำลังรอขึ้นทะเบียนในประเทศไทย”..