เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของพรรคภูมิใจไทย ในการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 4 ก.ค. นี้ ว่าพรรคภูมิใจไทยคงไม่เสนอชื่อบุคคลเป็นประธานสภา จึงไม่มีความลำบากใจมากนัก เราขอดูแคนดิเดตของแต่ละพรรคที่จะเสนอมา หลังจากนั้นจะหารือกันภายในพรรคที่รัฐสภาก่อนเริ่มการประชุม

เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลได้เสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นประธานสภา ขณะที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยจะมีความชัดเจนที่จะไม่โหวตให้นายปดิพัทธ์ได้เลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยเป็นไปตามแถลงการณ์ของพรรคเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 66

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีใครมาขอเสียงจากพรรคภูมิใจไทยให้ช่วยสนับสนุนประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยยอมตำแหน่งประธานสภาให้พรรคก้าวไกล เพื่อแลกกับเงื่อนไขหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลแทน พรรคภูมิใจไทย มองเรื่องนี้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่ารอให้เกิดขึ้นก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ และยังไม่รู้ว่าผลการลงมติจะเป็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยก็มีแนวทางอยู่ในใจ ต้องดูว่าสถานการณ์วันนั้นจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่มั่นใจได้ คือพรรคภูมิใจไทยจะไม่เป็นอุปสรรคให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ซึ่งหมายถึงองค์รวมคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน รวมเป็น 4 สถาบัน โดยพรรคภูมิใจไทยยึดมั่นในแนวทางนี้ เราสบายใจในจุดยืนของเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสุดท้ายตัวเลือกนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย มีน้ำหนักที่พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีหลักการทางระบบรัฐสภาอยู่แล้ว ถ้าเราเป็นรัฐบาลก็สนับสนุนฝ่ายรัฐบาล ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ ถือเป็นแนวทางที่ปฏิบัติกันอย่างยาวนานแล้ว

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีรอยร้าวและความขัดแย้งระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย มีแนวโน้มที่พรรคภูมิใจไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของพระ แล้วเณรไปเกี่ยวอะไร

เมื่อถามว่ามีโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะได้รับส้มหล่นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไปรอส้มหล่นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของบ้านเมือง เรามีแผนอยู่แล้วหลายแผน แต่วันนี้ไม่ได้เป็นพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 เราจึงบอกเสมอว่าพรรคภูมิใจไทยจะวางตัวให้เป็นไปตามมารยาททางการเมือง และวันนี้ก็ไม่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยจะไปตั้งรัฐบาลหรือติดต่อกับใคร เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางการดำเนินการของพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ซึ่งเราก็ยังทำตามนั้นอยู่

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีภาพปรากฏว่าเจอกับ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร ในวันครบรอบวันเกิด 14 ปีของที่สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี มีการพูดคุยการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุย แค่ไปแสดงความยินดี เพราะมีผู้สื่อข่าวโทรฯ มาเชิญไปร่วมงาน และไม่คิดว่าจะเจอกับนายพานทองแท้ ที่บังเอิญลงมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์พอดี ก็ทักทายกันตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ที่ออกเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 66 ระบุสาระสำคัญ ว่า “พรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมือง ที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112”

มีรายงานด้วยที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทินพร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ และนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ Ms.Birgit Hansl ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย (Country Manager for Thailand, East Asia and Pacific Region) เพื่อเข้าเยี่ยมและคารวะ โดยใช้เวลาพบปะกันประมาณ 1 ชม.

จากนั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือว่า เป็นการนัดหมายล่วงหน้ากับผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย และได้มีการสอบถามความคืบหน้าโครงการต่างๆ เกี่ยวกับสาธารณูปโภคของกระทรวงคมนาคม ที่พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลมา 4 ปี ตนได้รายงานความก้าวหน้า และอุปสรรคต่างๆ พร้อมให้เขาช่วยสนับสนุนประเทศไทยต่อไป เพราะยังมีโครงการอีกมากที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน และการพัฒนาให้ทุกประเทศเติบโตไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งธนาคารโลกมีความมั่นใจในประเทศไทยมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้จัดการธนาคารโลกได้สอบถามถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ถาม ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นก่อน เรายังไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยว่ากัน เราได้ฝากโครงการที่เขาให้การสนับสนุน และที่กำลังจะสนับสนุนช่วยดูแลให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป