“ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีนอาจครบรอบ 48 ปี แต่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนยาวนานมากกว่านั้น นับได้เป็นร้อยปี ไทยกับจีนมีความสนิทสนมกันมากกว่าแค่เพียงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน มีความเป็นบ้านพี่เมืองน้อง คนจีนก็อยากมาเมืองไทย มีความรู้สึกใกล้ชิดเหมือนเป็นพี่เป็นน้อง เวลาที่ผมเดินทางไปจีนเพื่อติดต่อธุรกิจก็ไม่ได้มีความรู้สึกแตกต่างเช่นกัน” วิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) บอกความรู้สึกเนื่องในโอกาสครบ 48 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน
เปิดสวนสนุกเชิงวัฒนธรรมLegend Siam Pattaya
ณุศาศิริ เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ขณะเดียวกันยังเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย กับสวนสนุกเชิงวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “Legend Siam Pattaya” ที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักเป็นชาวจีน
“คนจีนชอบสินค้าไทย ชื่นชอบวัฒนธรรมไทย นี่คือเหตุผลที่เราเปิดเลเจนด์สยามขึ้น เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเที่ยวก็จะมีการแชร์ภาพวัฒนธรรมไทยที่เรารวบรวมไว้ให้คนในประเทศได้เห็น ได้รู้จักแพร่หลายมากขึ้น นักลงทุนชาวจีนเองก็พยายามนำวัฒนธรรมไทยหลายอย่างไปสร้างไว้ในประเทศ เพื่อให้คนที่ไม่สามารถเดินทางออกมาท่องเที่ยวนอกประเทศได้ ได้มีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยด้วย”
ไม่เพียงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ณุศาศิริถือเป็นอีกตัวจักรสำคัญที่ร่วมขับเคลื่อน โดยมีจีนเป็นผู้สนับสนุนอย่างการจัดหา ชุดตรวจ ATK ในห้วงเวลาที่การตรวจหาเชื้อด้วยตนเองเพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อให้เร็วที่สุด เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
“ระหว่างเกิดวิกฤติโควิด-19 เราเป็นผู้นำเข้า ATK จากจีน แม้ในช่วงแรกจะมีกระแสเรื่องความไม่เชื่อถือในคุณภาพสินค้าจากจีน แต่เมื่อสามารถยืนยันได้ว่าสินค้าจากจีนไม่เหมือนเดิมที่เคยผ่านมาแล้ว ปัจจุบันมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ทั้งยังมีส่วนทำให้ราคาชุดตรวจถูกลง จนคนทั่วไปสามารถมีกำลังในการซื้อหาได้ ครั้งนั้นไม่ใช่แค่การนำเข้าสินค้าคุณภาพดีราคาจับต้องได้ แต่จีนยังอำนวยความสะดวกในด้านการขนส่งเพื่อให้ทันต่อความต้องการด้วย ขณะที่เราเองในช่วงที่ทางจีนมีปัญหาก่อนนอกจากการให้กำลังใจผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว ยังมีการให้เงินสนับสนุนด้วย ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างกัน”
ขยายลงทุนธุรกิจ “โรงพยาบาล”ในมณฑลเหอเป่ย์
ก่อนที่การให้ความช่วยเหลือในช่วงวิกฤติโควิดจะเกิดขึ้น บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือณุศาศิริ ดำเนินธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพ ได้นำ “โรงพยาบาลพานาซี” โรงพยาบาลเฉพาะทางที่ให้บริการทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกแบบองค์รวม มาตรฐานระดับสากลจากประเทศเยอรมนี เปิดตัวอย่างเป็นทางการใน เมืองเป่ยเต๋อ มณฑลเหอเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน
เมืองเป่ยเต๋อซึ่งเป็นที่ตั้งของ โรงพยาบาลฉินหวงเต่า พานาซี อี้หยวน (Qing Huang Dao Panacee Hospital) นั้น เป็นเมืองตากอากาศของผู้นำการเมืองและผู้บริหารของจีน เป็นเมืองชายทะเลที่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ในหนึ่งปีจะให้ผู้คนอยู่อาศัยได้เพียง 10 เดือน เนื่องจากอีก 2 เดือนที่เหลือนั้นเป็นช่วงอากาศหนาวเย็นถึงขั้นที่ไม่ควรอยู่อาศัย
“เราเองก็มีการติดต่อการค้ากับจีนมานานแล้ว เพราะจีนถือเป็นตลาดใหญ่ของไทย ณุศาศิริเองก็มีการลงทุนในจีน โดยเป็นโรงพยาบาลที่เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมขนาด 30 เตียง ซึ่งเปิดช่วงก่อนการระบาดของโควิดไม่นาน เป็นการให้การดูแลคนไม่ให้ป่วย เน้นที่การป้องกันเป็นหลัก เป็นการนำเทคโนโลยีและการแพทย์สมัยใหม่เข้าไปให้บริการพร้อมกับถ่ายทอดความรู้ ซึ่งทางเราได้สิทธิพิเศษจากรัฐบาลท้องถิ่นให้สามารถนำทีมแพทย์เข้าไปประจำการเพื่อให้บริการตรวจรักษาได้ทันที”
สิทธิพิเศษที่ว่านั้น กำลังจะได้รับการขยายแตกยอดไปยังเมืองอื่น ๆ ของจีนด้วย หลังจากการให้บริการในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับจากชาวจีนเป็นอย่างดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มณุศาศิริ บอกเหตุผลว่า เป็นเพราะชาวจีนมีความต้องการและให้ความสนใจการตรวจรักษาด้วยการแพทย์แผนใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และหนึ่งในใบเบิกทางในการดำเนินธุรกิจในจีนก็คือ การเป็นสมาชิกของ “สภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์” องค์กรที่ไม่เพียงทำหน้าที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในด้านธุรกิจแขนงต่าง ๆ ด้วย
“การที่เราจับกลุ่มกัน ไปพบปะเป็นกลุ่ม สำหรับชาวจีนแล้วจะได้รับความเชื่อถือมากกว่า เพราะถือว่าเป็นองค์กรธุรกิจที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ฝั่งจีนก็จะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น กลับกันนักธุรกิจจีนเองก็เข้ามาพบปะพูดคุยกับไทยในนามสมาคมเช่นกัน การรวมเป็นกลุ่มลักษณะนี้ทำให้ได้รับเกียรติจากนักธุรกิจหลากหลายด้าน และหากการดำเนินธุรกิจประสบปัญหาใด ๆ สภาวัฒนธรรมฯ ก็จะเข้าไปช่วยประสานงานเพื่อร่วมแก้ไข ซึ่งปีนี้เรามีโอกาสไปเยี่ยมเยียนผู้นำท้องถิ่นหลายแห่ง ซึ่งหลายรายก็อยากให้ทางเราเปิดโรงพยาบาลเพิ่มอีกแบบเดียวกับพานาซี เพื่อส่งเสริมเรื่องการแพทย์มากขึ้น”
ในโอกาสครบรอบ 48 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน จึงไม่ใช่เพียงแค่มิตรภาพที่เชื่อมโยงแน่นแฟ้นมากขึ้น หากแต่ยังรวมถึงด้านวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างกัน รวมถึงด้านธุรกิจที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนและพัฒนาร่วมกันด้วย เช่นเดียวกับที่กลุ่มณุศาศิริ เริ่มต้นไว้ซึ่งกำลังจะขยายการลงทุนและความร่วมมือต่อไปในอนาคต.
