เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แปลงนาเนื้อที่ 2 ไร่ ของนายประชา สุริยะประสิทธิ์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านสระตะเคียน ต.สระตะเคียน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ถูกปรับเปลี่ยนมาปลูกผักบุ้งแก้ว เพื่อส่งขายให้กับตลาด สร้างรายได้รายวัน วันละกว่า 500 บาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้ทำนาปลูกข้าวแล้วต้องประสบกับสภาวะการขาดทุน เพราะที่นามีสภาพเป็นแอ่งกระทะ ทำให้น้ำท่วมขังในช่วงหน้าฝน ผลผลิตข้าวไม่ได้เป็นที่น่าพอใจ โดยได้ศึกษาวิธีการปลูกจากอินเทอร์เน็ต และได้รับคำแนะนำจากทางกองส่งเสริมการเกษตร องค์การบริหารส่วนตำบลสระตะเคียน เป็นพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด

นายประชา กล่าวว่า ที่นาของตนเองนั้นเป็นที่ลุ่มต่ำลักษณะเหมือนแอ่งกระทะ ทำให้การทำนาช่วงฤดูฝนได้ผลผลิตไม่ดีนัก เพราะแปลงนาจะถูกน้ำท่วมบ่อยครั้ง จึงคิดหาวิธีที่จะนำเอาพืชชนิดอื่นมาปลูกทดแทน โดยได้ศึกษาหาวิธีการมาจากสื่อโซเชียลต่างๆ จนไปพบกับวิธีการปลูกผักบุ้งแก้ว ซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำเป็นพิเศษ ที่ตอบโจทย์กับสภาพพื้นที่ จึงสั่งซื้อต้นพันธุ์มาปลูก 20 ถุง ประมาณ 100 กก. ลงทุนเป็นเงิน 4,800 บาท ซึ่งวิธีการปลูกก็นำท่อนพันธุ์มาปักลงในแปลงคล้ายการปลูกข้าว จากนั้นก็ให้ปุ๋ยทางน้ำและทางใบ ใช้เวลาครึ่งเดือนก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยสามารถเก็บส่งขายได้ทุกวัน แบ่งเก็บเป็นล็อกๆ วันละประมาณ 500-600 บาท ราคาตอนนี้อยู่ที่ กก.ละ 14-15 บาท แต่หากในช่วงหน้าแล้งราคาจะพุ่งสูงถึง กก. ละ 40 บาท เลยทีเดียว

ซึ่งก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านทุกวัน ถือเป็นรายได้หลักของครอบครัวไปแล้ว ต้นทุนก็น้อย ให้ปุ๋ยแค่เล็กน้อยก็อยู่ได้ยาวเป็นเดือนๆ ศัตรูพืชหรือโรคต่างๆ ก็แทบจะไม่มี ระวังเพียงแมลงตับเต่าเท่านั้น ดีกว่าต้องลงทุนปลูกข้าวทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าไถ ค่าแรง ค่าเก็บเกี่ยว และต้องเสี่ยงกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนด้วย ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นปลูกผักบุ้งแก้ว เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมปัจจุบันก็เกือบ 3 เดือน ตอนนี้มีเงินเข้าบ้านแล้วเกือบ 50,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจจะหันมาปลูกผักบุ้งแก้ว สามารถปรึกษาวิธีการปลูกและต้นพันธุ์ได้ที่นายประชา สุริยะประสิทธิ์ โทร. 08-1064-4565