สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองตาเขมา ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดกันดาล ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อเปิดถนนวงแหวนสายใหม่ ซึ่งเชื่อมจากกรุงพนมเปญ ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า “ประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะในกัมพูชา” และขอประชาชนอย่าไปให้ความสำคัญกับเสียงวิจารณ์จากบางฝ่าย “ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของประชาคมโลก”


ขณะเดียวกัน ผู้นำกัมพูชาวัย 70 ปี ซึ่งปกครองประเทศคนเดียวยาวนานเกือบ 40 ปี กล่าวถึงการเตรียมถ่ายโอนอำนาจบริหารให้แก่ พล.อ.ฮุน มาเนต วัย 45 ปี อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ส.ค. ที่จะถึง ซึ่งเป็นวันที่รัฐสภาเตรียมลงมติรับรองผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ “เป็นการป้องกันไม่ให้กัมพูชาต้องเผชิญกับภาวะนองเลือด”

นอกจากนี้ สมเด็จฮุน เซน ยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งภายในพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) เกี่ยวกับการวางตัว พล.อ.ฮุน มาเนต ให้เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ อย่างไรก็ตาม หากมีปัจจัยใดก็ตาม ที่ส่งผลให้ พล.อ.ฮุน มาเนต “อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิต” เขาพร้อมกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


นอกจากนี้ สมเด็จฮุน เซน กล่าวถึงพรรคแสงเทียน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในเวลานี้ แต่ถูกตัดสิทธิจากการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไป ว่า “สมควรโดนยุบพรรค” เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับนายสม รังสี คู่ปรับทางการเมืองคนสำคัญของสมเด็จฮุน เซน ซึ่งลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส


อนึ่ง หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมเด็จฮุน เซน จะดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP