เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ขวัญดาว ตรีศูนย์” ได้โพสต์ข้อความว่า “ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหัวใจก็ยังเป็นพยาบาล…ขณะที่ขับรถอยู่ก็มองเห็นไกลๆ ว่ามีคนขับมอเตอร์ไซด์ข้ามเลน ขับตัดหน้ารถบรรทุก แบบเฉียดฉิว จากนั้นก็ตกลงไป ในร่องหลุมลึกข้างทาง คนขับน่าจะวูบจากโรคประจำตัว.. ใดๆนั้นคือ.คนขับรถผ่านไปมาบริเวณนั้นไม่มีใครมองเห็นผู้บาดเจ็บเลย.. รถมอไซด์และคนเจ็บตกลงไปในหลุมซะลึกทำให้ขาซ้ายผิดรูปมีบาดแผลที่ศีรษะ ดีใจที่ได้ช่วยเหลือนะคะ ขอบคุณทีมร่มโพธิ์คะ” พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพของตนเอง ในขณะที่กำลังให้การช่วยเหลือหญิงรายหนึ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทาง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาทราบว่า ผู้ที่กำลังให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บชื่อ น.ส.ขวัญดาว ตรีศูนย์ เป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งกำลังจะเดินทางไปทำธุระส่วนตัว ที่ได้มาเจอเหตุการณ์ และได้ให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บดังกล่าว หลังจากภาพและข้อความดังกล่าว ถูกโพสต์ออกไปได้ไม่นาน ก็ได้มีผู้เข้ามาแสดงความชื่นชมในการกระทำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ามาแสดงความชื่นชมว่า “I see เก่งจัง ชื่นชมครับ ความเป็นพยาบาล เป็น 24 ชั่วโมง ตลอดอายุไข”

น.ส.ขวัญดาว เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อที่จะไปทำธุระส่วนตัวที่ ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยขับรถไปเพียงคนเดียว ขณะนั้นได้ขับรถตามหลังรถบรรทุกมาห่างๆ และได้สังเกตเห็นคนขี่รถจักรยานยนต์ขับสวนทาง โดยรถมีลักษณะส่ายๆ จากนั้นก็ได้ตัดหน้ารถบรรทุก และพุ่งลงไปข้างทาง ตกลงไปในท้องร่องข้างถนน จึงได้จอดรถห่างออกไปประมาณ 200 เมตร จากนั้นก็ได้วิ่งมาดูก็พบว่ามีรถจักรยานยนต์ตกอยู่ในท้องร่อง และมีผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงนอนสลบซุกเข้าไปในท่อ และมีเลือดออกบริเวณศรีษะ ตนจึงรีบวิ่งกลับไปที่รถเพื่อหาผ้าสะอาดมาทำการห้ามเลือด และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

น.ส.ขวัญดาว เล่าต่อว่า กระทั่งผู้บาดเจ็บมีสติรู้ตัว ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้ง 1669 ซึ่งต่อมาอาสามูลนิธิร่มโพธิ์ก็ได้เข้ามาร่วมให้การช่วยเหลือ นำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เบื้องต้นพบว่าขาซ้ายหัก หน้าผากแตกเป็นแผลยาวประมาณ 5 เซนติเมตร และจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่า ผู้ประสบเหตุมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก และคาดว่าขณะที่ขับรถอยู่นั้นโรคลมชักเกิดอาการกำเริบจนเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งก็ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ถูกรถบรรทุกชน ซึ่งก็อาจจะทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนั้นเห็นการแต่งตัวเสื้อผ้าสีขาวนวล สวย สะอาด ไม่กลัวเสื้อผ้าจะเปื้อนหรืออย่างไร น.ส.ขวัญดาว ตอบว่า เมื่อเห็นเหตุการณ์ตนตัดสินใจจอดรถ และลงไปช่วยทันทีไม่ว่าจะอยู่ในสถานไหนเวลาไหน ตนในฐานะพยาบาล อีกทั้งก็ยังเป็นจิตอาสาพระราชทาน 904 อีกด้วย หากพบเหตุที่จะมีภัยต่อชีวิตคนอื่นก็ต้องให้การช่วยเหลือ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุก็เปื้อนโคลนและเปื้อนเลือดซักไม่ออกก็คงต้องทิ้ง แต่ทั้งนี้เป็นสิ่งของนอกกายหาซื้อใหม่ได้ ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า