สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ( ซีดีซี ) เผยแพร่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับสถิติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ว่านับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.ปีที่แล้ว 63.1% ของประชากร หรือประมาณ 209.4 ล้านคน ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม 53.8% หรือประมาณ 178.7 ล้านคน ได้รับวัคซีนครบแล้ว
ขณะที่นับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือเป็นบูสเตอร์ มีผู้เข้ารับวัคซีนเพิ่มแล้ว 1.78 ล้านคน โดยรัฐบาลเน้นฉีดให้กับผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าปกติ และบุคลากรการแพทย์  ปัจจุบัน สหรัฐใช้งานวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค มากที่สุด รองลงมาคือโมเดอร์นา และตามด้วยจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 
ทั้งนี้ หากจำแนกสถิติออกเป็นรายรัฐ ปรากฏว่ามีเพียงเวอร์มอนต์ คอนเนตทิคัต และแมสซาชูเซตส์ ที่ประชากรมากกว่า 2 ใน 3 ได้รับวัคซีนครบแล้ว โดยทั้งสามรัฐยังเป็นกลุ่มรัฐซึ่งมีอัตราการติดเชื้อต่อประชากร 100,000 คน ต่ำที่สุดในรอบสัปดาห์ล่าสุด และ 26 รัฐสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรในพื้นที่ ครบแล้วมากกว่า 50%
CNN
นอกจากนี้ ซีดีซียังเปิดเผยผลการสำรวจสัดส่วนการครองเตียงในโรงพยาบาล ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 อายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 13 รัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนตทิคัต จอร์เจีย แมริแลนด์ มินนิโซตา มิชิแกน นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอไฮโอ ออริกอน เทนเนสซี และยูทาห์ ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย.ปีนี้ ปรากฏว่า 87% เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ส่วนสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมทั่วสหรัฐตามรายงานของซีดีซี มีจำนวนประมาณ 40.8 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 656,318 ราย และอัตราการติดเชื้อภายในชุมชนอยู่ในระดับ "สีแดง" คือ "สูง".

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES