สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลีเบรอวีล ประเทศกาบอง เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ว่า สถานีโทรทัศน์แห่งชาติกาบองออกอากาศ การแถลงของทหารกลุ่มหนึ่ง “ในนามคณะกรรมการการเปลี่ยนผ่านและการฟื้นฟูสถาบัน” ขอประกาศ “การสิ้นสุดการครองอำนาจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน”


ทั้งนี้ ทหารซึ่งทำหน้าที่แถลง กล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กาบองเผชิญกับวิกฤติมากมาย โดยเกี่ยวข้องกับทั้งสถาบันสำคัญของประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม การเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา “ปราศจากความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และเป็นการลงคะแนนโดยไม่คำนึงถึงความต้องการแท้จริงของชาวกาบอง”


ด้วยเหตุนี้ “ผลการเลือกตั้งถือเป็นโมฆะ” นอกจากนั้น ให้มีการปิดพรมแดนทั้งหมดของกาบอง “จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง”


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของกาบองประกาศว่า ประธานาธิบดีอาลี บองโก ออนดิมบา ผู้นำคนปัจจุบัน ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 64.27% รักษาตำแหน่งเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน ส่วนนายอัลเบิร์ต ออนโด ออสซา ตัวแทนจากฝ่ายค้าน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 30.77%

ประธานาธิบดี อาลี บองโก ออนดิมบา ผู้กาบอง ร่วมการประชุมสหภาพแอฟริกา (เอยู) ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา


ขณะที่พรรคประชาธิปไตยกาบอง (พีดีจี) ของ อาลี บองโก ได้รับการเลือกตั้ง 96 ที่นั่ง จาก 143 ที่นั่ง ในสภาผู้แทนราษฎร ครองเสียงข้างมากพรรคเดียว


อาลี บองโก อายุ 64 ปี อยู่ในตำแหน่งผู้นำกาบองตั้งแต่ปี 2552 หลังการถึงแก่อสัญกรรมของบิดา คือประธานาธิบดีโอมาร์ บองโก ออนดิมบา ซึ่งปกครองกาบองตั้งแต่ปี 2510


ทั้งนี้ กาบอง ซึ่งมีประชากรราว 2.3 ล้านคน เป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวยที่สุดของทวีปแอฟริกา เมื่อคำนวณจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว หรือจีดีพีต่อหัว ด้วยสินค้าหลักคือน้ำมันดิบ ที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70.5% ของรายได้จากการส่งออก และคิดเป็น 38.5% ของจีดีพีกาบอง


นอกจากนั้น กาบองยังมีทรัพยากรแร่ธาตุอีกหลายชนิด แต่การบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชากรราวหนึ่งในสาม ยังมีคุณภาพขีวิตต่ำกว่าเส้นความยากจนของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์).

เครดิตภาพ : AFP